Categories
จัดอันดับอาหารยอดฮิต ไม่มีหมวดหมู่

สูตรเมี่ยงปลาเผาแสนอร่อย อาหารยอดฮิต เมนูกับข้าวที่กินแล้วไม่อ้วน

อยากมองหาเมนูปลาแสนอร่อยที่ดีต่อสุขภาพ เมนูที่เราจะแนะนำในบทความนี้คือ “เมี่ยงปลาเผา” ซึ่งต้องบอกเลยว่าเมนูนี้น้ำจิ้มเด็ด แซ่บถูกใจ ยิ่งถ้าเลือกเนื้อปลาที่มีความสดจะถูกใจแน่นอน ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย มีขั้นตอนการทำง่าย แถมยังทำได้สะดวกอีกด้วย มีอุปกรณ์ไม่กี่อย่างก็สามารถทำเมนูนี้กันได้ อยากหาเมนูที่กินแล้วไม่อ้วน ลองมาดูสูตรและวิธีทำเมี่ยงปลาเผาจดสูตรเอาไปทำตามรับรองว่าอร่อยเหมือนซื้อมาจากร้านแน่นอน

food menu2

สูตรและวิธีทำเมี่ยงปลาเผา เมนูปลายอดฮิตที่ทำไม่ยากแบบที่คิด

เมนูเมี่ยงปลาเผาเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่ากิน ทั้งเนื้อปลาที่มีความหอม ยิ่งกินคู่พร้อมขนมจีนหรือเส้นหมี่ก็ยิ่งอร่อย อยากได้เมนูอาหารง่ายๆ ที่ไม่น่าเบื่อแบบที่คิด รสชาติครบเครื่องถูกใจ ทั้งมีความเผ็ด เปรี้ยว เค็มถูกใจ รับรองว่าได้ลองชิมเมนูนี้จะชอบแน่นอน โดยจะมีสูตรอาหารหรือวิธีทำอาหารอย่างไรบ้าง ลองตามไปดูเมนูนี้กันได้ หากอยากลงมือเข้าครัวด้วยตัวเองก็ลองไปดูวัตถุดิบและวิธีทำที่เรานำมาฝากได้เลย 

วัตถุดิบ 

  • ปลาทับทิม 1 ตัว 
  • เกลือ 1 ถ้วย 
  • ใบเตย 4 ใบ 
  • ตะไคร้ 4 ต้น 
  • ขนมจีน 
  • ต้นหอม 
  • ผักชีฝรั่ง 
  • ผักกาดขาว 
  • ใบสะระแหน่ 
  • ถั่วฝักยาว 
  • ผักชีลาว 
  • ผักสลัด 
  • พริกแดง ครึ่งถ้วย 
  • น้ำปลากวน 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 1 ส่วน 3 ของถ้วย 
  • น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ 
  • ถั่วลิสง 1 ส่วน 3 ของถ้วย

วิธีการทำ

  1. เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดปลาทับทิมให้เรียบร้อยก่อน โดยที่ไม่ต้องขอดเกล็ดปลา 
  2. นำใบเตยพันตะไคร้แล้วยัดใส่ในท้องปลาเพื่อดับกลิ่นคาวปลา ก่อนที่จะไปทำขั้นตอนถัดไป
  3. เตรียมเตาถ่านสำหรับย่างปลา แล้วนำปลาไปย่างให้สุก โดยจะใช้เวลาย่างปลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือถ้าใครที่ไม่มีเตาถ่านก็สามารถใช้อุปกรณ์อื่นได้ เช่น เตาอบ หรือหม้ออบลมร้อน 
  4. ขั้นตอนถัดไปให้ทำน้ำจิ้มซีฟู้ดสำหรับกินคู่กับปลาเผา โดยให้ทำน้ำจิ้มด้วยเครื่องปั่น ใส่พริกกระเทียม ถั่วลิสงคั่ว น้ำมะนาว และน้ำปลา ปรุงรสให้ได้รสชาติที่ถูกใจ 
  5. เพียงเท่านี้ก็จะทำอาหารง่ายๆ อย่างเมนูเมี่ยงปลาเผาพร้อมเสิร์ฟเรียบร้อยแล้ว 

food menu1

รวมประโยชน์ของเมี่ยงปลาเผา เมนูปลาแสนอร่อย

เมี่ยงปลาเผาเป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีประโยชน์หลากหลายอย่าง แถมวิธีการทำอาหารเมนูนี้ก็ค่อนข้างง่าย แต่ก่อนอื่นเราจะมาแนะนำเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูนี้กันก่อนที่จะไปดูว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง สิ่งที่จะทำให้เมี่ยงปลาอร่อยก็คือ การกำจัดกลิ่นคาวปลาให้หมด และการปรุงน้ำจิ้มแสนอร่อย รับรองว่าจะถูกปาก ถูกใจทุกคนแน่นอน ไม่แปลกใจที่จะเป็นเมนูยอดนิยมของใครหลายคน ถ้ามีน้ำจิ้มแซ่บ ๆ ใครก็ชอบทั้งนั้น ถัดไปเราจะมาแนะนำประโยชน์ของเมนูนี้กันว่ามีอะไรบ้างหากอยากรู้แล้วก็ตามไปดูกันได้เลย

  • เนื้อปลาช่วยบำรุงสมอง 

ประโยชน์อย่างแรกของการกินเมี่ยงปลาเผาก็คือ การช่วยบำรุงสมอง เพราะในปลามีกรดไขมัน DHA และโอเมก้า 3 ปริมาณที่มาก ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาสมองของมนุษย์ กินได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ เพื่อที่จะทำให้เกิดการจดจำที่ดี หากใครอยากอายุเพิ่มขึ้นแล้วมีความจำที่ดี แนะนำเลยว่าเมนูที่ทำจากปลาเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างน่าสนใจเลย 

  • ช่วยลดความเครียดและบรรเทาอาการซึมเศร้า 

เมนูอาหารที่ทำจากปลามีประโยชน์อีกอย่างคือ การช่วยลดความเครียดและบรรเทาอาการซึมเศร้าได้ จากพบการวิจัยพบว่าโอเมก้า 3 มีความจำเป็นต่อสมอง แถมยังเหมาะกับคนที่มีอาการซึมเศร้าหรือขาดสมาธิ กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ช่วยทำให้ผู้ที่กินเข้าไปมีอารมณ์เย็นมากขึ้น ลดความเครียดและทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ 

  • ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ

จากการวิจัยพบว่าการกินเนื้อปลาอาทิตย์ละ 1 ถึง 2 ครั้งมีส่วนช่วยเรื่องการลดความดันโลหิตได้ ซึ่งความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ ดังนั้นใครที่อยากลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจการกินเมนูปลาจะช่วยได้เยอะเลย ทั้งช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ แถมยังมีค่าไขมันและพลังงานต่ำเหมาะมากสำหรับคนที่อยากจะรักษาหุ่นด้วย

  • ช่วยบรรเทาอาการปวดบวมของโรคข้ออักเสบ

จากการวิจัยพบว่าอาการของโรคไขข้ออักเสบสามารถบรรเทาได้จากการกินเนื้อปลา เพราะจากการวิจัยมีการทดลองให้ผู้ที่เป็นโรคไขข้ออักเสบกินปลา หลังจากนั้นก็สามารถลดการใช้ยาบางตัวลงได้ โดยที่ยังคงรักษาอาการของโรคข้ออักเสบได้อย่างคงที่ 

food menu

บทสรุป

อยากอิ่มอร่อยกับเมนูเมี่ยงปลาเผาก็จดสูตรกับข้าวเมนูนี้ไปทำตามกันได้ แต่สิ่งสำคัญคือให้เตรียมอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อนที่จะทำ ถ้าบ้านไหนไม่มีเตาเผาก็สามารถใช้อุปกรณ์อื่นก่อนก็ได้ เพื่อให้ได้เมนูเพื่อสุขภาพแสนอร่อย ขั้นตอนการทำที่ไม่ได้ยากแบบที่คิด รสชาติของเมนูนี้จะถูกปากทุกคนไม่ผิดหวังแน่นอน นอกจากนี้เว็บไซต์ของเรายังมีสูตรอาหารคาวอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณจดไปทำตามกันได้ อยากลองเข้าครัวด้วยเมนูอื่น ๆ ก็ลองเข้ามาอ่านบทความบนเว็บไซต์ของเรากันได้ kin-keng.com


บทความเพิ่มเติม

Categories
จัดอันดับอาหารยอดฮิต ไม่มีหมวดหมู่

สูตรและวิธีทำยำปลาทู อาหารยอดฮิต เมนูปลาสุดแซ่บใครกินก็ติดใจ

อยากกินเมนูยำปลาทูสุดแซ่บ ลองมาดูสูตรที่เรารวมมาฝากกันได้ ขั้นตอนการทำมีไม่กี่อย่าง ทำกินได้ง่าย เรียกว่าใครกินก็อร่อยทั้งนั้น ส่วนมากเวลาซื้อตามร้านเราจะพบว่าแม่ค้าทำรสชาติได้อร่อยมาก เราก็เลยไปหาสูตรแบบฉบับร้านดังมา รับรองว่าทำง่าย แถมยังสะดวกกว่าเดิม ไม่ต้องแวะตลาดหรือต่อคิวนาน ๆ อีกต่อไป ถ้าพร้อมที่จะเริ่มต้นทำเมนูยำปลาทูกันแล้ว ลองตามไปดูเลยดีกว่าว่าจะมีวัตถุดิบและวิธีทำอย่างไรบ้างเผื่อใครอยากจะฝึกสกิลทำอาหารก็มาทำเมนูนี้กันได้ 

simple food menu1

รวมสูตรและวิธีทำยำปลาทู รสชาติถูกปากชาวไทยทุกคน 

อยากลองทำเมนูยำปลาทูกินเองกันไหม? ใครที่อยากลงมือทำเมนูอาหารคาวเพื่อสุขภาพ สามารถมาดูสูตรอาหารหรือวิธีการทำอาหารที่เรานำมาฝากไปทำตามกันได้ รับรองว่ารสชาติจะถูกปากคนไทย มีทั้งความเผ็ด เปรี้ยว วัตถุดิบที่ใช้ทำก็ไม่ยุ่งยาก ยิ่งถ้าคนที่อยากลดน้ำหนักกินเมนูที่ทำจากปลาทูจะชอบแน่นอน สำหรับวิธีทำอาหารเมนูนี้ก็ไม่ยาก หากพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยว่าต้องเตรียมวัตถุดิบอะไรบ้างและมีวิธีการทำอย่างไร

วัตถุดิบ 

  • ปลาทู 2 ตัว 
  • หอมแดงซอย 4 หัว 
  • ตะไคร้ซอย 3 ต้น
  • หญ้าหวาน 1 ช้อนชา
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนู 4 เม็ด 
  • ต้นหอม 2 ต้น 
  • ผักชี 1 ต้น 
  • ใบสะระแหน่ 
  • แตงกวา 

วิธีทำ 

  1. ขั้นตอนแรกให้เริ่มจากการเตรียมปลาทูให้เรียบร้อย โดยทำความสะอาดก่อนที่จะนำไปย่างไฟอ่อน ๆ เพื่อให้ปลาทูส่งกลิ่นหอม หลังจากนั้นให้ทำการแกะเนื้อปลาทูออกมา ระวังอย่าให้เนื้อเละจนเกินไป 
  2. นำชามใบใหญ่สำหรับคลุกวัตถุดิบมาเตรียมเอาไว้ ใส่เนื้อปลาทูที่แกะแล้วลงไป ตามด้วยการใส่ตะไคร้ซอส หอมแดงซอย พริกขี้หนู ผักชี และต้นหอม จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา, หญ้าหวาน และน้ำมะนาว คลุกเคล้าส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากัน
  3. เตรียมจานให้พร้อม แล้วตักยำปลาทูที่ปรุงรสเอาไว้ลงไป จากนั้นให้ตกแต่งจานด้วยใบสะระแหน่กับแตงกว่า เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูยำปลาทูพร้อมเสิร์ฟเรียบร้อยแล้ว 
simple food menu

ประโยชน์ของเมนูยำปลาทู สารอาหารครบถ้วน กินแล้วไม่รู้สึกผิด

เมนู “ยำปลาทู” เป็นอีกหนึ่งอาหารรสแซ่บที่ใครกินก็ต้องถูกใจ สามารถกินแบบเป็นกับแกล้มแบบเดี่ยว ๆ หรือกินเป็นกับข้าวก็ได้ทั้งนั้น รับรองว่าใครกินเมนูนี้เข้าไปจะได้สารอาหารที่ครบถ้วนอย่างแน่นอน แต่ถ้ายังลังเลอยู่ว่าจะเมนูอาหารง่ายๆ อย่างยำที่ใช้วัตถุดิบหลักด้วยปลาดีหรือไม่ ลองมาดูประโยชน์ของเมนูนี้กันก่อนได้ เพื่อที่จะทำให้คุณตัดสินใจปรุงรสชาติแสนอร่อยทำกินเองหรือทำให้คนในบ้านกินได้ง่ายขึ้น โดยจะมีประโยชน์อย่างไรบ้างตามไปดูเลยดีกว่า 

  • เป็นเมนูที่ที่ช่วยบำรุงประสาทและสมอง

สำหรับเมนูที่ทำจากปลาทูจะมีส่วนช่วยบำรุงประสาทและสมอง เพราะมีไขมันโอเมก้า 3, โอเมก้า 6 และกรดไขมัน DHA ซึ่งจะช่วยเรื่องการจดจำ พัฒนาระบบประสาทและสมองได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีส่วนช่วยบำรุงสายตาอีกด้วย ควรจะให้กินตั้งแต่เด็กเพราะการกินปลาทูจะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กและป้องกันโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย 

  • ช่วยลดไขมันในเลือด

ประโยชน์ถัดไปของเมนูยำปลาทู คือ ช่วยลดไขมันในเลือด โดยจะลดความเสี่ยงจากโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจ และโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับหลอดเลือด ใครที่อยากจะป้องกันความเสี่ยงของโรคเหล่านี้การกินเมนูที่ใช้วัตถุดิบหลักเป็นปลาทูในการทำออกมาเป็นเมนูต่าง ๆ จะช่วยได้ค่อนข้างเยอะเลย 

  • เมนูที่มีวัตถุดิบหลักจากปลาทูจะช่วยป้องกันโรคซึมเศร้า

“ปลาทู” เป็นเมนูที่ช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้ เพราะมีไขมันโอเมก้า 3 เป็นส่วนประกอบ หากใครที่อาจจะมีความเสี่ยงของโรคซึมเศร้า ส่งผลต่อพัฒนาการทั้งด้านการอ่าน การเขียน และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็ก โดยเฉพาะโอเมก้า 3 ที่ควรจะมีอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ 

  • ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน 

ประโยชน์อย่างสุดท้ายของเมนูที่ทำจากปลาทูก็คือ การช่วยบำรุงกระดูกและฟัน เพราะเป็นเมนูที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของกระดูกและฟันได้ เรียกว่าเป็นเมนูปลาที่ให้สารอาหารอย่างครบเครื่อง สามารถเอาไปทำเป็นเมนูอื่น ๆ ได้อย่างหลากหลาย เหมาะมากสำหรับคนที่อยากบำรุงกระดูกให้มีความแข็งแรง ป้องกันโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากกระดูก

simple food menu2

บทสรุป

จะเห็นว่าจากสูตรและวิธีทำยำปลาทูที่เรานำมาฝาก เป็นเมนูที่เพิ่มความอร่อยในแต่ละมื้อให้กับทุกคนได้อย่างแน่นอน แถมปลาทูก็เป็นปลาที่มีประโยชน์หลากหลาย ดังนั้นใครที่อยากจะทำอาหารง่ายๆ ด้วยเมนูของแซ่บที่ถูกปากคนไทย รับรองว่าปลาทูจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจแน่นอน พอเอามาทำเป็นยำก็จะได้ทั้งรสชาติเผ็ด เปรี้ยว ผสมความหวานเล็กน้อยมาอย่างลงตัว แต่ถ้าใครอยากทำเมนูอาหารอื่น ๆ อีก ก็สามารถเข้ามาดูวิธีทำผ่านเว็บไซต์ของเราได้ เรามีอีกหลายเมนูรสชาติอร่อย ๆ ให้คุณได้จดสูตรไปทำตามกันได้เลย kin-keng.com


บทความเพิ่มเติม