พาไปส่อง 3 ร้านของหวาน ในกรุงเทพ กินได้แบบไม่เบื่อ

ในช่วงนี้ ร้านของหวาน ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีหลากหลายคนที่อยากตามไปเช็คอินกันอีกด้วย เนื่องจากเป็นร้านที่เหมาะกับสายหวานทั้งหลาย มีเมนูที่น่าสนใจ แถมยังมีการวิจัยออกมาว่าความหวานช่วยให้ทุกคนคลายเครียดกันได้ ถ้าเป็นแบบนี้การทำงานหนัก ๆ ก็มีข้ออ้างที่ให้เลือกทานของหวานกันได้แล้ว แถมบางร้านก็มีเมนูของหวานตามฤดูกาลเพิ่มความแปลกใหม่ให้มากกว่าเดิมเข้าไปอีก ใครที่อยากกินได้แบบไม่รู้สึกเบื่อต้องห้ามพลาดร้านที่เราคัดสรรมาฝากเลย

แนะนำ ร้านของหวาน ที่สายกินทั้งหลายต้องไปเช็คอิน 

3 ร้านของหวาน ที่เราคัดสรรมาฝากเป็น ร้านของหวานในกรุงเทพ ที่คอของหวานทั้งหลายต้องห้ามพลาดเลย ทั้งร้านสวยบรรยากาศดี ขนมหวานรสชาติอร่อย กลมกล่อมถูกใจอย่างแน่นอน ที่สำคัญยังมี ร้านของหวานปิดดึก มาฝากทุกคนอีกด้วย เผื่อว่าใครที่เกิดอยากกินของหวานในช่วงเวลากลางคืนก็สามารถไปตามรอยกันได้ ไปดูกันเลยดีกว่าว่า ร้านของหวาน สยาม และที่อื่น ๆ ในกรุงเทพที่เรานำมาฝากจะมีร้านไหนบ้าง

1. SWEET CIRCLE

ร้านของหวาน สยาม ที่คนตามไปต่อคิวจำนวนมากต้องยกให้ร้าน SWEET CIRCLE ซึ่งเป็นร้านที่มีเมนูเด็ดต่าง ๆ มากมาย เมนูเด็ดของร้านนี้ก็คือบัวลอย ซึ่งมีไส้ให้เลือกได้หลากหลาย แถมยังเป็นร้านที่นอกจากของหวานก็ยังมีเมนูที่สายชาไทยทั้งหลายต้องชื่นชอบอีกด้วย 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 95 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : สยามสแควร์ซอย 5

เปิดให้บริการ : ทุกวันตั้งแต่ 5 โมงครึ่งเป็นต้นไป

2. MIDNIGHT A COCOA  

MIDNIGHT A COCOA เป็น ร้านของหวานปิดดึก ที่เมนูเด็ดก็คือโกโก้ ซึ่งร้านนี้จะมีเมนูโกโก้ให้เลือกได้มากถึง 3 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญยังมาพร้อมกับไฮไลท์ในการรับจ่ายเงินแค่แบงค์ 50 บาทเท่านั้น นับว่าใครที่ชื่นชอบโกโก้จะต้องรู้สึกถูกใจ ร้านของหวาน ร้านนี้กันอย่างแน่นอน 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 50 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : อยู่ติดกับร้านสุนทรวาดรูป ถนนประชาธิปก

เปิดให้บริการ : ทุกวันตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตี 2 

3. B-STORY CAFÉ 

สายหวานต้องห้ามพลาด ร้านของหวานในกรุงเทพ B-STORY CAFÉ ที่เรานำมาฝาก เพราะร้านนี้นอกจากจะตกแต่งออกมาอย่างสวยงาม มีการเปลี่ยนสไตล์ของร้านตามเทศกาลต่าง ๆ อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องของเมนูของหวานที่มีให้เลือกเยอะ เมนูที่ไม่ควรพลาดก็คือชีสเค้กและเครื่องดื่มต่าง ๆ 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 100 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : ทางออก 4 BTS ราชเทวี 

เปิดให้บริการ : ทุกวันตั้งแต่ 10 โมงจนถึง 4 ทุ่ม

 

 

 

 

ไฮโลออนไลน์ เกมคาสิโนออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ หากคุณกำลังมองหาเว็บเกมเดิมพัน ที่มีเกมมากมายให้คุณได้เล่น เว็บเราตอบโจทย์คุณแน่นอน

ปักหมุด 3 ร้านมิชลินด์ ที่น่าไปลิ้มลอง สายกินไม่ควรพลาด

เราอยากจะแนะนำ ร้านมิชลินด์ ให้กับสายกินทุกท่านได้ลองไปรับประทานตามกันดู ถ้าหากใครที่เป็นสายกินที่ชื่นชอบอาหารรสชาติอร่อย หรือเคยตามเก็บร้านอาหารที่ได้รับมิชลินด์กันมาก่อนหน้านี้ในต่างประเทศ ต้องห้ามพลาดเลยเพราะว่าในไทยก็มีร้านที่ได้เหมือนกัน มีทั้งแบบสตาร์ และแบบไกด์ เรียกได้ว่ามีให้ครบทุกรูปแบบเลยทีเดียว แต่ว่าจะมีร้านไหนที่น่าตามไปลองกันบ้างเราก็ได้ทำการรวบรวม 3 ร้านที่น่าไปตามรอยมาฝาก รับรองว่าจะถูกใจสายกินทั้งหลายแน่นอน 

ร้านมิชลินด์ ทั่วไทย อาหารอร่อย บรรยากาศดีที่น่าไปตามรอย 

ร้านมิชลินด์ ร้านต่าง ๆ ที่เราได้ทำการรวบรวมมาฝากมีทั้ง มิชลินสตาร์ และไกด์ แต่ที่การันตีได้เลยก็คือเรื่องของรสชาติที่กลมกล่อมเป็นอย่างมาก ถูกสร้างสรรค์เมนูต่าง ๆ มาเป็นอย่างดี ที่สำคัญในรอบนี้ไม่ได้มีแค่ร้านในกรุงเทพมาฝากเท่านั้น แต่ยังมีร้าน มิชลินไกด์ เชียงใหม่ และร้าน มิชลินไกด์ ภูเก็ต มาฝากทุกคนอีกด้วยไปดูกันได้เลยว่าจะมี 3 ร้านไหนที่น่าไปตามรอยกันบ้าง

1. จินเจอร์ฟาร์มคิชเช่น

ร้านแรกที่เราจะพาไปดูก็คือร้าน มิชลินไกด์ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านยอดนิยมที่มีการตกแต่งโดยรอบสวยงาม มั่นใจได้เลยว่าบรรยากาศร่มรื่น พักผ่อนกันได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมาพร้อมกับการรวบรวมอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่กันไว้จำนวนมาก บรรยากาศอบอุ่น เมนูขึ้นชื่อของร้านนี้ก็คืออาหารเหนือ ซึ่งใช้วัตถุดิบสดใหม่เป็นอย่างมากในการทำ 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 200 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : โครงการ ONE NIMMAN ถนนนิมมานเหมินท์

เปิดให้บริการ : วันอังคารถึงวันพฤหัสบดี 10 โมงถึง 3 ทุ่ม , วันศุกร์ถึงวันจันทร์ 10 โมงถึง 4 ทุ่ม

2. โต๊ะแดง บ้านอาจ้อ

ร้าน มิชลินไกด์ ภูเก็ต เปิดใหม่แต่รสชาติอร่อยถูกปาก ที่สำคัญยังตกแต่งมาด้วยบรรยากาศที่ดูวินเทจเป็นอย่างมากอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาร้านอร่อยบรรยากาศดี โต๊ะแดง บ้านอาจ้อเป็นหนึ่งในร้านที่ไม่ควรพลาดเลย ที่สำคัญยังติดอันดับ ร้านมิชลินด์ ใหม่ล่าสุดอีกด้วย 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 250 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : 102 ถนนเทพกระษัตรี จังหวัดภูเก็ต

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 10 โมงถึง 3 ทุ่ม

3. SAAWAAN

ร้านอาหารไทยฟิวชันที่ได้รับ มิชลินสตาร์ ในปี 2022 ก็คือร้านที่เรากำลังจะแนะนำให้สายกินทุกคน SAAWAN เป็นร้านที่ราคาไม่แพงจนเกินไป เริ่มต้นคอร์สละ 1,980 บาท แต่ได้ลิ้มลองอาหารไทยที่มาพร้อมกับเมนูที่มีเรื่องราว อีกทั้งยังเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลต่าง ๆ ในการทำอีกด้วย ที่สำคัญมาพร้อมกับรสชาติแบบไทยแท้ที่หาทานไม่ได้ง่าย ๆ มั่นใจได้เลยว่าจะอร่อยถูกปากอย่างแน่นอน 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 1,000 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : 39/19 ซอยสวนพลู ถนนสาทร 

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 6 โมงเย็นถึง 5 ทุ่มครึ่ง 

 

 

 

 

ไฮโลไทย เกมคาสิโนออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ หากคุณกำลังมองหาเว็บเกมเดิมพัน ที่มีเกมมากมายให้คุณได้เล่น เว็บเราตอบโจทย์คุณแน่นอน

ปักหมุด 3 ร้านมิชลินด์ ที่น่าไปลิ้มลอง สายกินไม่ควรพลาด

เราอยากจะแนะนำ ร้านมิชลินด์ ให้กับสายกินทุกท่านได้ลองไปรับประทานตามกันดู ถ้าหากใครที่เป็นสายกินที่ชื่นชอบอาหารรสชาติอร่อย หรือเคยตามเก็บร้านอาหารที่ได้รับมิชลินด์กันมาก่อนหน้านี้ในต่างประเทศ ต้องห้ามพลาดเลยเพราะว่าในไทยก็มีร้านที่ได้เหมือนกัน มีทั้งแบบสตาร์ และแบบไกด์ เรียกได้ว่ามีให้ครบทุกรูปแบบเลยทีเดียว แต่ว่าจะมีร้านไหนที่น่าตามไปลองกันบ้างเราก็ได้ทำการรวบรวม 3 ร้านที่น่าไปตามรอยมาฝาก รับรองว่าจะถูกใจสายกินทั้งหลายแน่นอน 

ร้านมิชลินด์ ทั่วไทย อาหารอร่อย บรรยากาศดีที่น่าไปตามรอย 

ร้านมิชลินด์ ร้านต่าง ๆ ที่เราได้ทำการรวบรวมมาฝากมีทั้ง มิชลินสตาร์ และไกด์ แต่ที่การันตีได้เลยก็คือเรื่องของรสชาติที่กลมกล่อมเป็นอย่างมาก ถูกสร้างสรรค์เมนูต่าง ๆ มาเป็นอย่างดี ที่สำคัญในรอบนี้ไม่ได้มีแค่ร้านในกรุงเทพมาฝากเท่านั้น แต่ยังมีร้าน มิชลินไกด์ เชียงใหม่ และร้าน มิชลินไกด์ ภูเก็ต มาฝากทุกคนอีกด้วยไปดูกันได้เลยว่าจะมี 3 ร้านไหนที่น่าไปตามรอยกันบ้าง

1. จินเจอร์ฟาร์มคิชเช่น

ร้านแรกที่เราจะพาไปดูก็คือร้าน มิชลินไกด์ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านยอดนิยมที่มีการตกแต่งโดยรอบสวยงาม มั่นใจได้เลยว่าบรรยากาศร่มรื่น พักผ่อนกันได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมาพร้อมกับการรวบรวมอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่กันไว้จำนวนมาก บรรยากาศอบอุ่น เมนูขึ้นชื่อของร้านนี้ก็คืออาหารเหนือ ซึ่งใช้วัตถุดิบสดใหม่เป็นอย่างมากในการทำ 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 200 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : โครงการ ONE NIMMAN ถนนนิมมานเหมินท์

เปิดให้บริการ : วันอังคารถึงวันพฤหัสบดี 10 โมงถึง 3 ทุ่ม , วันศุกร์ถึงวันจันทร์ 10 โมงถึง 4 ทุ่ม

2. โต๊ะแดง บ้านอาจ้อ

ร้าน มิชลินไกด์ ภูเก็ต เปิดใหม่แต่รสชาติอร่อยถูกปาก ที่สำคัญยังตกแต่งมาด้วยบรรยากาศที่ดูวินเทจเป็นอย่างมากอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาร้านอร่อยบรรยากาศดี โต๊ะแดง บ้านอาจ้อเป็นหนึ่งในร้านที่ไม่ควรพลาดเลย ที่สำคัญยังติดอันดับ ร้านมิชลินด์ ใหม่ล่าสุดอีกด้วย 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 250 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : 102 ถนนเทพกระษัตรี จังหวัดภูเก็ต

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 10 โมงถึง 3 ทุ่ม

3. SAAWAAN

ร้านอาหารไทยฟิวชันที่ได้รับ มิชลินสตาร์ ในปี 2022 ก็คือร้านที่เรากำลังจะแนะนำให้สายกินทุกคน SAAWAN เป็นร้านที่ราคาไม่แพงจนเกินไป เริ่มต้นคอร์สละ 1,980 บาท แต่ได้ลิ้มลองอาหารไทยที่มาพร้อมกับเมนูที่มีเรื่องราว อีกทั้งยังเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลต่าง ๆ ในการทำอีกด้วย ที่สำคัญมาพร้อมกับรสชาติแบบไทยแท้ที่หาทานไม่ได้ง่าย ๆ มั่นใจได้เลยว่าจะอร่อยถูกปากอย่างแน่นอน 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 1,000 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : 39/19 ซอยสวนพลู ถนนสาทร 

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 6 โมงเย็นถึง 5 ทุ่มครึ่ง 

 

 

 

 

GCLUB จีคลับ เว็บไซต์พนันออนไลน์ บริการคาสิโนออนไลน์ 24 ชั่วโมง ด้วยระบบที่เป็นมาตรฐานระดับสากลออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และรวดเร็ว ไว้คอยให้บริการท่าน

รวม 3 ร้านอาหารเจ สายบุญต้องไปตามรอย รสชาติอร่อยถูกใจ

ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ เราก็ได้รวบรวม ร้านอาหารเจ ที่น่าไปตามรอยมาฝากทุกคน เผื่อว่าใครที่ยังไม่มีร้านในใจจะได้สามารถเข้ามาปักหมุดตามร้านต่าง ๆ ที่เราจะแนะนำกันก่อนได้ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าในตอนนี้มีร้านใหม่ ๆ ที่น่าไปเยอะกว่าเมื่อก่อนมาก แถมบางร้านก็ทำอาหารออกมาได้เหมือนกับว่าไม่ใช่อาหารเจเลย ดังนั้นถ้าใครที่อยากจะเริ่มต้นทานอาหารเจเพื่อเสริมบุญแต่อยากกินอาหารรสชาติอร่อยถูกใจก็สามารถทำได้แน่นอน 

ห้ามพลาด ร้านอาหารเจ รสชาติอร่อย ปัดหมุดร้านในกรุงเทพ 

สายบุญทั้งหลายที่กำลังมองหา ร้านอาหารเจ ที่น่าตามไปปักหมุด บอกเลยว่าต้องห้ามพลาด 3 ร้านที่เราเตรียมมาฝากกันเด็ดขาด เป็นร้านที่ตามไปรับประทานกันได้ไม่ยาก อีกทั้งยังมีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารเจในห้าง หรือนอกห้างก็มีให้เลือกไปตามรอยกันได้ทั้งหมด อยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่าเรารวม ร้านอาหารเจ ดีๆ รสชาติอร่อยร้านไหนมาฝากบ้าง ถ้าอยากรู้แล้วไปดูกันเลยดีกว่า

1. โคโค่

ร้านนี้ต้องเป็นร้านโปรดของใคร ๆ หลายคนกันอย่างแน่นอน เพราะว่าเป็น ร้านอาหารเจในห้าง ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางสยามสแควร์เลยทีเดียว มีเมนูให้เลือกทานได้หลากหลาย วัตถุดิบสดใหม่ ผักและเห็ดนี่คือปรุงออกมาเป็นเมนูต่าง ๆ ได้น่ารับประทานเป็นอย่างมาก เมนูเด็ดที่ต้องห้ามพลาดเลยก็คือ ผัดแขนงเห็ดหอมแดดเดียว 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 100 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : สยามสแควร์ซอย 3 

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 11 โมงถึง 2 ทุ่ม 

2. ANOTAI VEGETARIAN RESTAURANT 

อีกหนึ่ง ร้านอาหารเจ อร่อย ที่สายรักสุขภาพไม่ควรมองข้ามก็คือร้าน ANOTAI ซึ่งเป็น ร้านอาหารเจ ที่มีอาหารสไตล์จีนค่อนข้างเยอะ แต่ว่าขึ้นชื่อเรื่องของความสดใหม่เป็นอย่างมาก ทุกเมนูถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี แถมยังมีเมนูเด็ดเป็นอาหารไทยที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ ข้าวผัดคะน้าปลาเค็มเจ 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 200 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : 976/17 ถนนพระราม 9 

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 10 โมงถึง 3 ทุ่มครึ่ง 

3. กับข้าวกับปลา

ในช่วงเทศกาลอาหารเจ ร้านกับข้าวกับปลาก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีเมนูอาหารเจให้เลือกรับประทานกันได้เยอะ นับว่าเป็นอีกหนึ่ง ร้านอาหารเจ ดีๆ ที่ทุกคนไม่ควรพลาดเลย มีเมนูให้เลือกหลากหลายทั้งรวมเห็ด 3 ชนิดเป็นเมนู เห็ดทอดสามสหาย ยิ่งไปกว่านั้น ร้านอาหารเจ อร่อย ร้านนี้ยังมีไอติมโฮมเมดสูตรเจให้สายหวานทั้งหลายได้กินกันอีกด้วย 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 250 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : ชั้น 1 มาร์เก็ตเพลสทองหล่อ  

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 10 โมงถึง 5 ทุ่ม 

 

 

 

สนับสนุนโดย :

สมัครบาคาร่า ที่เว็บคาสิโน888 เราเป็นเว็บคาสิโนที่สมัครง่ายที่สุด เกมคาสิโน สล็อต บาคาร่าเล่นง่าย ได้เงินจริง และยังสามารถดาวน์โหลดเอาไว้เล่นบนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนได้

3 ร้านอาหารทะเล ใกล้กรุงเทพที่ซีฟู้ดเลิฟเวอร์ไม่ควรพลาด

ใครที่อยากหา ร้านอาหารทะเล อร่อย ๆ ลิ้มลองรสชาติแนะนำเลยว่าในตอนนี้ที่จังหวัดกรุงเทพก็มีร้านซีฟู้ดที่น่าตามไปเช็คอินจำนวนมาก ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไปกินที่ต่างจังหวัดกันอีกต่อไป ใครที่บอกว่าอยากกินอาหารทะเลแบบสดใหม่ เราแนะนำเลยว่าต้องห้ามพลาดกับร้านต่าง ๆ ที่เราได้ทำการรวบรวมมาฝาก จัดได้ว่าเป็น 3 ร้านที่น่าไปตามรอยเป็นอย่างมาก รสชาติอร่อยถูกปาก วัตถุดิบสดใหม่ ถูกใจสายกินทุกคนอย่างแน่นอน 

แนะนำ ร้านอาหารทะเล สดใหม่ เดินทางไม่ไกล เช็คอินใกล้กรุงเทพ

สำหรับคนที่กำลังมองหา ร้านอาหารทะเล ที่อยู่ในกรุงเทพเราบอกเลยว่าต้องเตรียมตัวจดลิสต์ที่เรานำมาฝากกันได้เลย เพราะเราได้รวม ร้านอาหารทะเล กรุงเทพ มาฝากทุกคน เอาใจสายกินที่ชื่นชอบอาหารซีฟู้ดกันอย่างเต็มที่ ใครที่ชอบอาหารแบบไหน รสชาติกลมกล่อม รสชาติจัดจ้าน ที่สำคัญเรื่องของความสดใหม่ก็ไม่มีพลาด ไปดูกันเลยดีกว่าว่า 3 ร้านอาหารทะเลสด ที่เรานำมาฝากจะมีร้านไหนบ้างที่น่าไปตามรอย

1. THE SEA 345

ร้านอาหารทะเล ร้านแรกที่เราแนะนำแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ แต่เรียกได้ว่าอยู่ติดกับกรุงเทพมหานครที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะว่าตั้งอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี เป็นร้านที่อยู่ติดริมน้ำ ใช้อาหารทะเลที่สดใหม่ รับประกันได้เลยว่าใครได้ลิ้มลองต้องถูกใจ เมนูเด็ดของร้านนี้ก็คือทะเลเดือด และทะเลลวกจิ้ม 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 200 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : 11/27 บางบัวทอง อำเภอปากเกร็ด

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 11 โมงถึงเที่ยงคืน 

2. แหลมเจริญซีฟู้ด 

แหลมเจริญซีฟู้ดเป็น ร้านอาหารทะเล ในห้าง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีเมนูให้เลือกหลากหลาย แต่ที่พลาดไม่ได้ก็คือ ปลากะพงทอดน้ำปลา ซึ่งเป็นรสชาติต้นตำรับที่ทอดออกมาได้กำลังพอดี ที่สำคัญยังมีอาหารทะเลอื่น ๆ ให้เลือกหลากหลาย ถ้าหากนึกถึง ร้านอาหารทะเล ในห้าง แหลมเจริญซีฟู้ดเป็นอีกหนึ่งร้านที่ไม่ควรพลาดเลย 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 150 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้า ชั้น 4 

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 11 โมงถึง 4 ทุ่ม 

3. กวงซีฟู๊ด

ถ้าอยากหา ร้านอาหารทะเล กรุงเทพ ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารสดใหม่ น้ำจิ้มรสชาติจัดจ้าน กวงซีฟู้ดเป็นร้านที่ไม่ควรมองข้ามเลย เพราะว่าจะมาพร้อมกับเมนูอาหารทะเลแบบจัดเต็ม มีทั้งกุ้ง กั้ง ปูทะเล ซึ่งใครที่ชอบกินมื้อดึกต้องถูกใจ ร้านอาหารทะเลสด ร้านนี้กันอย่างแน่นอน 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 200 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : ซอยรัชดาภิเษก 10

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 11 โมงถึงตี 2 ครึ่ง

 

 

 

สนับสนุนโดย : 

https://sa-game.bet/สมัครบาคาร่า888/ เว็บบาคาร่าและคาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุด พร้อมโปรโมชั่น2022 ฝากถอนออโต้ไม่มีขั้นต่ำ

แนะนำ 3 ร้านก๋วยเตี๋ยว รสเด็ด อร่อยถูกใจ สายกินชาวไทยแน่นอน 

ก๋วยเตี๋ยวแทบจะเป็นอาหารยอดฮิตของชาวไทยเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเราจะพาไปดู ร้านก๋วยเตี๋ยว ที่สายกินทั้งหลายไม่ควรพลาด รับรองเลยว่าเป็นร้านเด็ดที่รสชาติจะถูกปากทุกคนอย่างแน่นอน ที่สำคัญยังมีราคาหลากหลาย ใครที่อยากกินก๋วยเตี๋ยวแบบรสเด็ด หรือว่าก๋วยเตี๋ยวระดับพรี่เมี่ยมก็มีให้เลือกตามไปเช็คอินกันได้ทั้งนั้น ถ้าใครยังไม่มีร้านก๋วยเตี๋ยวในดวงใจก็สามารถเข้าไปกินตามร้านที่เรานำมาฝากกันได้

ปักหมุด ร้านก๋วยเตี๋ยว ที่สายกินไม่ควรพลาด ราคาไม่แพง

สำหรับสายกินทั้งหลาย ร้านก๋วยเตี๋ยว เด็ด ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งปักหมุดที่ไม่ควรพลาด เพราะว่าก๋วยเตี๋ยวก็นับว่าเป็นเมนูโปรดของใครหลายคน ถ้าหากจะทำให้อร่อยต้องเริ่มตั้งแต่น้ำซุป รวมไปถึงการลวกเส้น ดังนั้น ร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อย ถูกปากทุกคนก็คงจะหาไม่ได้ง่าย ๆ เราจึงได้ทำการรวบรวม 3 ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ และก๋วยเตี๋ยวประเภทอื่น ๆ มากฝาก ซึ่งจะมีร้านไหนที่น่าไปตามรอยบ้างไปดูกันเลยดีกว่า

1. ก๋วยเตี๋ยววัดดงมูลเหล็ก

สำหรับร้านแรกที่เราจะแนะนำก็คือ ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ยอดฮิตระดับตำนาน ที่ต้องยอมรับเลยว่าเรื่องรสชาติไม่แพ้ใคร มีทั้งเนื้อตุ๋น หมูตุ๋น หรือจะเป็นแบบหม้อไฟก็มีให้เลือกซื้อกันได้ทั้งหมด ที่สำคัญยังเป็นร้านที่เดินทางไปรับประทานได้ง่าย อยู่ติด BTS อีกทั้งยังเป็นร้านที่เนื้อก็นุ่ม เส้นก็นุ่ม น้ำซุปก็กลมกล่อมที่สุดเลย 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 50 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : อาคารสั่นนภา ซอยอารีย์ 1 

เปิดให้บริการ : ทุกวันตั้งแต่ 9 โมงครึ่งจนถึง 3 ทุ่มครึ่ง 

2. ทองสมิทธ์

ทองสมิทธ์เป็น ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่ขายในห้าง ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงนี้ ด้วยราคาที่จับต้องได้ อีกทั้งยังทำรสชาติออกมาได้อย่างกลมกล่อม เป็นอีกหนึ่ง ร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อย ที่มั่นใจได้เลยว่าจะถูกปากทุกคนอย่างแน่นอน อีกทั้งยังสามารถเลือกระดับความเผ็ดกันได้อีกด้วย วัตถุดิบที่ใช้ก็เป็นเรกดพรี่เมี่ยมทั้งนั้น

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 100 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : ชั้น 2 เซ็นทรัลลาดพร้าว  

เปิดให้บริการ : ทุกวันตั้งแต่ 10 โมงจนถึง 3 ทุ่มครึ่ง

3. ก๋วยเตี๋ยวเรือ ป.ประทีป นวลจันทร์

อีกหนึ่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ที่เราอยากแนะนำก็คือ ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ที่มีทั้งเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือหมู, เนื้อ มีเส้นให้เลือกหลากหลาย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านระดับตำนานที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมาก รสชาติจัดจ้านถูกใจ กินได้แบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม รับรองว่าใครที่อยากกินก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยถูกปากต้องห้ามพลาดเลย

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 25 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : 6/2 ซอยคลองลำเจียก 13 

เปิดให้บริการ : ทุกวันตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็น 

 

 

 

สมัครบาคาร่า

พาไปส่อง 3 ร้านของหวาน ในกรุงเทพ กินได้แบบไม่เบื่อ

ในช่วงนี้ ร้านของหวาน ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีหลากหลายคนที่อยากตามไปเช็คอินกันอีกด้วย เนื่องจากเป็นร้านที่เหมาะกับสายหวานทั้งหลาย มีเมนูที่น่าสนใจ แถมยังมีการวิจัยออกมาว่าความหวานช่วยให้ทุกคนคลายเครียดกันได้ ถ้าเป็นแบบนี้การทำงานหนัก ๆ ก็มีข้ออ้างที่ให้เลือกทานของหวานกันได้แล้ว แถมบางร้านก็มีเมนูของหวานตามฤดูกาลเพิ่มความแปลกใหม่ให้มากกว่าเดิมเข้าไปอีก ใครที่อยากกินได้แบบไม่รู้สึกเบื่อต้องห้ามพลาดร้านที่เราคัดสรรมาฝากเลย

แนะนำ ร้านของหวาน ที่สายกินทั้งหลายต้องไปเช็คอิน 

3 ร้านของหวาน ที่เราคัดสรรมาฝากเป็น ร้านของหวานในกรุงเทพ ที่คอของหวานทั้งหลายต้องห้ามพลาดเลย ทั้งร้านสวยบรรยากาศดี ขนมหวานรสชาติอร่อย กลมกล่อมถูกใจอย่างแน่นอน ที่สำคัญยังมี ร้านของหวานปิดดึก มาฝากทุกคนอีกด้วย เผื่อว่าใครที่เกิดอยากกินของหวานในช่วงเวลากลางคืนก็สามารถไปตามรอยกันได้ ไปดูกันเลยดีกว่าว่า ร้านของหวาน สยาม และที่อื่น ๆ ในกรุงเทพที่เรานำมาฝากจะมีร้านไหนบ้าง

1. SWEET CIRCLE

ร้านของหวาน สยาม ที่คนตามไปต่อคิวจำนวนมากต้องยกให้ร้าน SWEET CIRCLE ซึ่งเป็นร้านที่มีเมนูเด็ดต่าง ๆ มากมาย เมนูเด็ดของร้านนี้ก็คือบัวลอย ซึ่งมีไส้ให้เลือกได้หลากหลาย แถมยังเป็นร้านที่นอกจากของหวานก็ยังมีเมนูที่สายชาไทยทั้งหลายต้องชื่นชอบอีกด้วย 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 95 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : สยามสแควร์ซอย 5

เปิดให้บริการ : ทุกวันตั้งแต่ 5 โมงครึ่งเป็นต้นไป

2. MIDNIGHT A COCOA  

MIDNIGHT A COCOA เป็น ร้านของหวานปิดดึก ที่เมนูเด็ดก็คือโกโก้ ซึ่งร้านนี้จะมีเมนูโกโก้ให้เลือกได้มากถึง 3 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญยังมาพร้อมกับไฮไลท์ในการรับจ่ายเงินแค่แบงค์ 50 บาทเท่านั้น นับว่าใครที่ชื่นชอบโกโก้จะต้องรู้สึกถูกใจ ร้านของหวาน ร้านนี้กันอย่างแน่นอน 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 50 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : อยู่ติดกับร้านสุนทรวาดรูป ถนนประชาธิปก

เปิดให้บริการ : ทุกวันตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตี 2 

3. B-STORY CAFÉ 

สายหวานต้องห้ามพลาด ร้านของหวานในกรุงเทพ B-STORY CAFÉ ที่เรานำมาฝาก เพราะร้านนี้นอกจากจะตกแต่งออกมาอย่างสวยงาม มีการเปลี่ยนสไตล์ของร้านตามเทศกาลต่าง ๆ อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องของเมนูของหวานที่มีให้เลือกเยอะ เมนูที่ไม่ควรพลาดก็คือชีสเค้กและเครื่องดื่มต่าง ๆ 

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 100 บาทเป็นต้นไป

ที่ตั้ง : ทางออก 4 BTS ราชเทวี 

เปิดให้บริการ : ทุกวันตั้งแต่ 10 โมงจนถึง 4 ทุ่ม

สุดยอดร้านบุฟเฟ่ของหวานชื่อดังที่สายกินจุไม่ควรพลาด

ในอดีตนั้นร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมนั้นจะเป็นเรื่องของตัวอาหารคาว เพราะด้วยเป็นอาหารหลักและมื้อสำคัญ แต่ในปัจจุบันนั้นของหวานเองเริ่มมีร้านมาเปิดเป็นร้านบุฟเฟ่ของหวานเพื่อเอาใจหลายๆคนที่ชอบของหวาน หรือขนมหวาน ไม่ว่าจะเป็น เค้ก เบเกอร์รี่ หรืออื่นๆ และวันนี้เองเราก็จะมาพาเพื่อนๆมาหาร้านบุฟเฟ่ของหวานเด็ดๆ ในกรุงเทพกันดีกว่าว่าจะมีร้านไหนเป็นสุดยอดที่น่าตำกันบ้าง ไปดูกันเลย

3 ร้านบุฟเฟ่ของหวานที่ต้องไปลอง

1. BAKE A WISH

ขอเริ่มต้นจากร้านบุฟเฟ่ของหวานร้านแรกในแถบสุขสวัสดิ์ 19 กับร้าน BAKE A WISH JAPANESE HOMEMADE CAKE เป็นร้านบุฟเฟ่ที่มีทั้งของคาวและของหวาน ไม่ว่าจะเป็นข้าว เค้ก หรือ ของหวานอื่นๆ ให้คุณได้เลือกกินได้อย่างจุใจ แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นสายกินจุแบบบุฟเฟ่ทางร้านก็มีให้เลือกสั่งแบบปกติได้ ใครที่ได้ชอบของหวานบุฟเฟ่ต์ต้องมาลองที่นี่เลยนะ ราคาแบบบุฟเฟ่จะเริ่มต้นตั้งแต่ 350 บาท  ขอกระซิบเลยว่าร้านนี้อร่อยทุกเมนูจริงๆ

2. SWEETY SECRET

สำหรับร้านบุฟเฟ่ของหวานร้านที่สองบอกเลยว่าร้านนี้เป็นร้านบุฟเฟ่ต์เค้ก ที่อยู่มาทุกยุค เป็นร้านบุฟเฟ่ต์เค้กขึ้นชื่อแถวสามย่านเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือร้าน SWEETY SECRET หากใครอยู่แถวสามย่านน่าจะรู้จักที่นี่เป็นอย่างดี เรื่องขอตัวบรรยากาศภายในร้านไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะว่าบรรยากาศภายในร้านนั้นดีมากๆ มีเค้กให้เลือกหลายรูปแบบ แถมยังมีชาที่ให้ดื่มฟรีคู่กับเค้ก นับว่าเป็นร้านบุฟเฟต์ของหวานที่สมบูรณ์ที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยร้านนี้จะเปิดทุกวันตั้งแต่ 12.00 – 19.00 น.

3. SWEET SPELL

และร้านบุฟเฟ่ของหวานร้านสุดท้ายสำหรับวันนี้ นั่นก็คือร้าน SWEET SPELL ร้านบุฟเฟ่ต์ร้านนี้จะอยู่แถวประชาอุทิศ 19 ตรงสี่แยกเหม่งจ๋าย ซึ่งร้านนี้มีรายการอาหารหวานให้เลือกมากมาย และที่นี่เป็นร้านที่เค้กอร่อยมากหากใครได้ลิ้มลองต้องติดใจอย่างแน่นอน บรรยากาศภายในร้านแม้ว่าจะธรรมดาแต่ภายในเต็มไปด้วยของน่ากินทั้งนั้น หากใครที่ได้ผ่านไปแถวเหม่งจ๋ายก็ไปลิ้มลองกันได้ ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 19.00 น.

สายหวานอย่างเราถูกใจสิ่งนี้

เป็นยังไงกันบ้างสำหรับ 3 ร้านบุฟเฟ่ของหวานที่เรานำมาฝากกับทุกคนในวันนี้ หวังว่าหากใครได้ลิ้มลองรสชาติของทั้งสามร้านนี้แล้ว ก็อาจจะได้ขึ้นเป็นหนึ่งในลิสต์ของบุฟเฟ่ต์ของหวาน 2022 ก็ได้ นอกจากนี้แล้วบุฟเฟ่ต์ของหวานก็ยังมีอีกมากมายให้เลือกสรรทั้ง บุฟเฟ่ต์ เบเกอรี่ บุฟเฟ่ต์ไอศกรีม เป็นต้น

แนะนำร้านขนมไทยขึ้นชื่อ ที่เป็นลิสต์ในใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

สำหรับสายของหวาน ขนมไทยคงเป็นอีกอย่างนึงที่หลายๆคนชื่นชอบ เพราะด้วยความประณีตจนเป็นเอกลักษณ์ของตัวขนม รวมถึง สีสรรที่สวยงามและกลิ่นหอมเย้ายวนให้เราต้องไปลิ้มลอง แม้ว่าปัจจุบันร้านเบเกอรี่หรือขนมอื่น ๆ ที่เปิดใหม่เยอะมากๆ แต่ร้านขนมไทยก็ยังคงติดอยู่ในลิสต์ที่ใครหลายๆคนก็อยากกิน และในวันนี้นั้นเราก็จะมาพาเพื่อนๆ มารู้จักร้านขนมไทยที่เป็นลิสต์อันดับต้นๆ ที่ไม่ว่าคนในประเทศเองหรือชาวต่างชาติก็ติดใจตามๆกัน

4 ร้านขนมไทย ที่ต้องไปจัด ต้องไปโดน

1. ร้านแห่ชม

ร้านขนมไทยร้านแรกที่เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักนั่นก็คือ ร้านเห่ชม คาเฟ่ขนมไทย ที่อยู่แถวๆย่านท่าเตียน ในร้านจะจัดบรรยากาศผสมผสานกันระหว่างความหรูหราสไตล์ลอฟต์กับลวดลายแบบไทยๆ ถือว่าจัดได้แบบว่าสวยๆมากๆ และสำหรับร้านนี้ก็มี ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสังขยา ทองเอก ดาราทองที่เป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่อีกด้วย ซึ่งใครอยากไปลองความอร่อยสามารไปได้วันพุธถึงวันอาทิตย์ เวลา 10.30 – 17.00 น. 

2. ร้านเสน่ห์

มาถึงร้านที่สอง ต้องขอบอกก่อนเลยว่าร้านขนมไทยร้านนี้จะเป็นรูปแบบของคาเฟ่ผสมกับการเป็นสตูดิโอเวิร์คช็อป ซึ่งร้านนั้นคือ ร้านเสน่ห์ นั่นเอง โดยร้านนี้จะตั้งอยู่ที่ถนนข้าวสารเป็นร้านขนมในไทยเล็กๆน่ารัก จุดเด่นของร้านนี้ไม่เพียงแต่เป็นร้านที่มีเมนูของหวานไทยง่ายๆ เพียงเท่านั้น แต่ก็ยังมีขนมไทยหายากแถมทำสดใหม่ทุกวัน พร้อมกับมีการเวิร์คช็อปทุกวันอังคาร พฤหัสและวันเสาร์ ซึ่งบอกได้เลยว่า ถ้าใครเป็นสายชอบกินและอยากลองเวิร์คช็อปดู ที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งเลย สำหรับเมนูขึ้นชื่อก็จะมี ขนมต้ม ขนมทองเอก เสน่ห์จันทร์ เป็นต้น

3. ร้านทับทิมกรอบวังหลัง

ร้านของหวานไทย ร้านที่สามเราพาทุกคนไปกินทับทิมกรอบกันที่วังหลังด้วยกัน โดยร้านขนมไทยนั้นชื่อ ทับทิมกรอบวังหลัง โดยร้านจะแต่งได้แบบเรียบง่ายด้วยโทนสีม่วงเข้ากับทับทิมกรอบ และสะอาด แน่นอนว่าของขึ้นชื่อของที่นี่ต้องเป็นทับทิมกรอบที่มีความหวาน หอม มันของกะทิ ขอกระซิบด้วยว่าเป็นสูตรต้นตำหรับจากชาววังด้วย ใครอยากจะมากินร้านนี้สามารถมาได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 – 20.00 น.

ใครที่ชื่นชอบ บัวลอยไข่เค็ม เมนูของหวานไทยโบราณ ที่มีมาอย่างยาวนาน แนะนำที่นี่เลยบัวลอยไข่เค็ม ท่าน้ำคลองสานพลาซ่า ซึ่งร้านนี้จะตั้งอยู่บริเวณท่าเรือคลองสาน สำหรับบัวลอยไข่เค็มของที่นี่จะมีความพิเศษของบัวลอยที่ใส่ไข่เค็มผสมกับน้ำกะทิรสหวานๆ เค็มๆ ทำให้เข้ากันเป็นอย่างดี ใครที่จะมาร้านขนมไทยร้านนี้สามารถมาได้ จันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่ 14.00 – 19.00 น.

ขนมไทยเอกลักษณ์ที่ควรสานต่อ

แม้ว่าร้านขนมไทย หรือขนมไทยบางชนิดก็เริ่มหากินได้ยากแล้ว แต่ปัจจุบันก็มีร้านขนม อร่อย 2021 ก็มีเกิดขึ้นอีกมากมายเพิ่ที่จขะรักษาความเอกลักษณ์ของขนมไทยเอาไว้ และหากว่าใครที่อยากลิ้มลองขนมไทยก็สามารถไปที่ร้านที่เรานำมาแนะนำกันได้

ร้านเด็ด ร้านดังเยาวราช ที่คุณไม่ควรพลาด

หากพูดถึงย่านที่เหมาะกับการตะลุยหาของกินแล้วนั้น หลายๆคนคงจะนึกถึงย่านที่มีคนเชื้อสายจีนพลุกพล่านนั่นก็คือ ย่านเยาวราช ซึ่งต้องบอกเลยว่าย่านนี้มีร้านของกินให้เราได้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งของคาวหรือของหวานก็มีให้เลือก และในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ ร้านดังเยาวราช ที่ขึ้นชื่อได้ว่าหากใครมาเยือนแถวนี้แล้วละถ้าไม่ได้มากินถือว่ามาไม่ถึง

3 ร้านดังเยาวราชที่ต้องไปลิ้มลอง

1. ก๋วยจั๊บนายเล็ก (อ้วน)

มาถึงร้านดังเยาวราช ร้านแรกเลย นั้นก็คือร้านก๋วยจั๊บนายเล็ก (อ้วน)  อยู่ตรงหน้าตลาดเก่า ซอยเยาวราช 11 ต้องบอกเลยว่าร้ายก๋วยจั๊บร้านนี้เป็น ร้าน อร่อย ย่าน เยาวราช ร้านนึงเลย ซึ่งเปิดมานานมากกว่า 40 ปี โดยเมนูเด็ดจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากก๋วยจั๊บ ความพิเศษของร้านนี้จะอยู่ที่ตรงน้ำซุปที่รสชาติกลมกล่อม บวกกับมีความเผ็ดร้อนทำให้เพิ่มความแซ่บเช้าไปอีก และตัวเส้นก็ทำได้ออกมาพอดีไม่แข็งหรือไม่นิ่มเกินไป หมูกรอบก็ฟินสุดๆเลย หากใครอยากไปลิ้มลองต้องไปวันอังคาร – พฤหัส และเสาร์เวลา 17.30 – 23.00 น. ส่วนวันศุกร์ และอาทิตย์ จะเปิด 17:30 – 23:30 น. 

2. บะหมี่จับกัง (ต้นตำหรับ)

ใครกำลัง หาของกินที่เยาวราช และชื่นชอบการกินเส้น ต้องมาร้านดังเยาวราชร้านนี้เลย คือร้านบะหมี่จับกัง (ต้นตำหรับ) เยาวราช  ร้านบะหมี่จับกังระดับตำนานที่มีรสชาติพิเศษอย่างมาก ยิ่งเรื่องของตัวน้ำซุปของทางร้านที่มีความกลมกล่อมอย่างลงตัว และนอกจากเรื่องรสชาติแล้วร้านนี้ก็ยังให้เยอะมาก ยิ่งสั่งพิเศษมาก็ก่อนไม่หมดแน่นอน ใครที่จะไปสักครั้งสามารถไปได้ทุกวันตั้งแต่ 8.00 – 17.30 น. 

3. ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ด สูตรเยาวราช

หากกินอาหารคาวจนอิ่มแล้ว จะไม่หาของหวานมากินต่อก็คงจะไม่ได้ สำหรับร้านของหวานแถวเยาวราชเราจะขอแนะนำร้านขนมปังเจ้าอร่อยเด็ด สูตรเยาวราช ซึ่งเป็นร้านขนมปัง ร้านเด็ด ร้านดังเยาวราช ที่มีความพิเศษอยู่ที่มีไส้ให้เลือกหลากหลายรสชาติ แถมยังให้ไส้ทะลักแบบจุกๆ กลิ่นหอมจากเตาร้อนๆ ซึ่งหากใครเป็นแฟนๆ ขนมปังใส่ไส้แล้วละก็จะพลาดเรื่องนี้ไปไม่ได้ โดยร้ายจะเปิด อังคาร – อาทิตย์ 18.00 – 24.00 น. และหากใครจะไปลองกินต้องรีบไปต่อคิวเพราะร้านนี้คนต่อคิวเยอะมากๆ

ย่านเยาวราช ย่านที่รวบรวมของอร่อยไว้อีกมากมาย

เป็นยังไงกันบ้างสำหรับร้านดังเยาวราชที่เราเอามาแนะนำเพื่อนๆกันในวันนี้เป็นหนึ่งในร้านเด็ดเยาวราช 2021 และน่ากินทุกร้านเลยใช่ไหมละ ซึ่งต้องบอกเลยว่าที่นี่ยังมีร้านลับเยาวราช อีกมากมายที่ให้คุณจะต้องไปลิ้มลอง หากใครได้ไปแล้วจะต้องติดใจอย่างแน่นอน