Categories
วิธีการทำอาหาร

สูตร มะระยัดไส้ อร่อยง่าย ทำได้ที่บ้าน

สูตรมะระยัดไส้หมู

ที่เขาว่าหวานเป็นลมขมเป็นยา หลายคนคงได้ยินคำนี้ เมื่อได้เห็นเมนู มะระยัดไส้หมู มีหลายคนที่ยังไม่เปิดใจลองทาน แน่นอนว่าถ้าทำตามสูตรที่ดี รับรองจะได้น้ำซุปแบบเข้มข้น มะระไม่ขม ทานคู่กับอะไรก็อร่อย เรามีสูตรเด็ดบอกต่อ ไม่ขมเลยสักนิด ผลลัพธ์น่าประทับใจ ลองทำกันดูได้เลย 

อุปกรณ์การทำมะระยัดไส้หมู

มะระยัดไส้หมู

หากใครอยากจะปรับเปลี่ยนจากมะระยัดไส้หมู เป็นเนื้อสัตว์อื่นก็ได้เช่นกัน แต่ที่นิยมในเมืองไทย นำมายัดไส้กับหมูสับผสมกับวุ้นเส้น รับรองอร่อยเหาะ กินได้ทุกวัน แถมยังเป็นเมนูที่ทำทานได้ทุกวัน ยิ่งช่วงหน้าหนาว หรือหน้าฝน ยิ่งฟินไปอีก เวลาเจอเมนูนี้อยู่ที่โต๊ะกับข้าวที่บ้าน เมนูซดน้ำซุปร้อนๆ คล่องคอ  

เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับมะระยัดไส้หมู

ต้มจืดมะระยัดไส้หมู ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เป็นการผสมผสานการต้มกับตุ๋น ได้รับอิทธิพลจากอาหารจีน ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพ มีสรรพคุณทางยามากมาย มีคุณสมบัติรักษาโรคเบาหวานเริ่มต้นได้ดี ดีต่อสุขภาพมีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยวิตามิน รวมถึงไฟเบอร์อีกด้วย แถมยังเป็นเมนูที่ช่วยให้เจริญอาหารขึ้นไปอีก  

วิธีการทำ มะระยัดไส้หมู

สูตรมะระยัดไส้หมูแบบง่ายๆ

หลายคนคงเห็นส่วนมาก ผู้คนที่ชอบเมนูนี้จะเป็นคนสูงวัย เพราะหลายคนคิดว่ามะระมีรสชาติที่ขมมาก จนทานไม่ได้ แต่อย่าพึ่งคิดแบบนั้น ตอนนี้เมื่อนำสูตรเราไปลองทำตามต้มจืดมะระยัดไส้หมู จะไม่ขมอีกต่อไป อย่างที่ทุกคนเคยพบเจอฝันร้ายมาก่อน เกี่ยวกับการทานมะระ ทำตามขั้นตอนที่เราบอก วิธีทำมะระยัดไส้หมูรับรองได้สูตรใหม่ยุค 2024 อร่อยจนติดใจอยากจะกลับมาทำซ้ำอีกรอบ

วัตถุดิบ

  • ส่วนผสมและวัตถุดิบเมนูมะระยัดไส้หมู
  • มะระจีนคว้านใส่ออก 1 ลูก 
  • เห็ดหอม ใส่ตามชอบ
  • รากผักชี 2 ราก 
  • ผักชี 1 ต้น 
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา  
  • เกลือ ½ ช้อนชา  
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา 
  • ส่วนผสมสำหรับหมักหมูบด
  • หมูบด 500 กรัม 
  • มันหมู 50 กรัม 
  • แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
  • วุ้นเส้น ½ ห่อเล็ก 
  • กระเทียม 4 กลีบ
  • พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ

อุปกรณ์

  • มีดหั่นวัตถุดิบ
  • ถ้วยใส่วัตถุดิบ 
  • หม้อต้ม
  • ทัพพี
  • เครื่องชั่งน้ำหนัก
  • เขียง
วัตถุดิบการทำ มะระยัดไส้หมู

วิธีทำ

เป็นวิธีทำต้มจืดมะระยัดไส้หมู ที่รวบรัดและเรียบง่ายใช้เวลานิดหน่อย อุปกรณ์ทำมะระยัดไส้หมูที่บ้านไหนก็มี ได้รสชาติที่ต้องการแน่นอน มือใหม่ก็ทำได้มาลองกันเลย

  • ตั้งหม้อน้ำให้เดือด นำรากผักชี พริกไทยป่น เห็ดหอมดอกใหญ่ ใส่ในหม้อต้มซุป รอน้ำซุปเดือดอีกรอบปรุงรสชาติที่ต้องการ 
  • เตรียมหมูสับ มันหมูสับ วุ้นเส้น และเครื่องปรุงเพื่อที่จะผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน 
  • มะระที่หันได้ 4 ชิ้น ให้ทาเกลือที่มะระ นำหมูที่ผสมให้เข้ากัน ยัดไส้อัดให้แน่น เพื่อที่จะทำให้มีรูปร่างทรงตัว ไม่หลุดออกมาระหว่างที่ต้ม
  • เปิดฝาหม้อใส่มะระที่ประกอบร่างเสร็จ โดยต้องใส่ขณะที่ไฟอ่อน และค่อยๆ หย่อนลงไป
  • ปิดฝาหม้อให้สนิท ให้ครบ 1 ชั่วโมง เพื่อที่จะทำให้น้ำซุปกลมกล่อมอย่างที่ต้องการ และทำให้น้ำใสไม่ขุ่น           
  • หลังจากครบเวลาแล้ว สามารถปรุงรสชาติตามที่ต้องการได้เลย และจัดจาน โรยผักชี พร้อมเสิร์ฟทันที 
มะระยัดไส้หมู

บอกต่อ 5 ประโยชน์ดีๆ ของมะระ 

  •  บำรุงสายตา มีวิตามินซีที่ประกอบอยู่ในมะระ ป้องกันภาวะต้อกระจก และทำให้สายตาแข็งแรงอยู่เสมอ
  • เสริมสร้างภูมิต้านทาน ทำให้ร่างกายแข็งแรงปกป้องทำให้ไม่เจ็บป่วยง่าย 
  • ดีต่อตับ ช่วยลดการสะสมของแอลกอฮอล์ได้ดีในตับ 
  • ลดน้ำหนัก โดยมีคาร์โบไฮเดรตต่ำทำให้รู้สึกอิ่มนาน แถมยังมีแคลอรีไม่มาก 
  • ต้านมะเร็ง โดยในมะระมีสารประกอบที่ทำให้ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ที่กำลังจะก่อตัวขึ้นของเนื้องอก

บทส่งท้าย

ไม่ว่าใครๆ ก็ทำเมนูนี้ได้ อาหารไทยอาจจะดูยาก แต่รับประกันอาหารไทยทำง่ายอร่อยถึงใจ ต้มจืดมะระยัดไส้หมูหม้อใหญ่ กินได้ทั้งบ้าน แถมยังถูกปาก สดสะอาด เพราะเราเป็นคนปรุงเอง อาหารไทยโบราณมั่นใจได้ทุกคำที่ตักเข้าปาก มะระที่ขึ้นชื่อว่าขม ทำให้คนในบ้านสุขภาพดีขึ้นไปอีก ใครที่อยากเปลี่ยนใจมาลองกินมะระแบบไม่ขม ต้องเอาสูตรเด็ดเราไปใช้ได้เลยไม่หวง  

ขอขอบคุณคลิปจาก กินได้อร่อยด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ kin-keng.com

แกงจืดเต้าหู้หมูสับ เมนูง่ายๆ อร่อยๆ ดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

Categories
วิธีการทำอาหาร

แกงส้มชะอมไข่ อาหารไทยโบราณที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ

แกงส้มชะอมไข่

แกงส้มชะอมไข่ เมนูที่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน เพิ่มชะอมไข่ไปอีก เพิ่มความสะใจเต็มคำ ถ้าหากได้ทานรับรองได้เลยว่าเพิ่มข้าวได้หลายจาน มีความอร่อยที่รสชาติจัดจ้าน เปรี้ยวเผ็ดเค็ม แถมยังมีคุณประโยชน์หลากหลายจากวัตถุดิบที่นำมาปรุง เป็นเมนูโปรดของหลายบ้านที่มีโอกาสทำกินบ่อยๆ แน่นอน และทุกภาคในประเทศไทยต้องรู้จัก  

แกงส้ม

แกงส้มชะอมไข่

เมนูอาหารไทยที่ทำง่ายไม่ยาก แถมยังมีตามร้านข้าวแกงหลากหลายให้เลือกกินเสมอ แต่ที่แน่นอนว่า รสชาติจะมีความแตกต่างแต่ละภาค รวมไปถึงชะอมไข่ ที่พออยู่ในน้ำแกงส้มแล้วอร่อยแสงออกปาก อาหารไทยโบราณเป็นอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวนำ ที่สำคัญในเครื่องแกงยังมีส่วนผสมของสมุนไพรอีกด้วย เป็นเมนูที่แม้กระทั่งชาวต่างชาติก็ยังชื่นชอบ

เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับแกงส้มชะอมไข่

ในประเทศไทยแต่ละภาคมีความแตกต่างกัน ในเรื่องของเครื่องแกงส้ม และวัตถุดิบที่ใส่ลงไป แกงส้มชะอมไข่ พริกแกงส้มที่มีการทำไม่เหมือนกันแต่ละพื้นที่ ทำให้สีของน้ำแกงมีความแตกต่างกัน ภาคใต้จะเป็นสีเหลือง ภาคอื่นๆ จึงเรียกแกงเหลือง และแกงส้มไม่ได้มีเพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีปรากฏในแถบตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย แต่จะมีการปรุงที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

วิธีทำแกงส้ม

สูตรแกงส้มชะอมไข่แบบง่ายๆ

ถือว่าเป็นเมนูที่พ่อครัวแม่ครัวหลายคนทำออกมาอร่อย รสชาติที่จัดจ้าน แน่นอนว่ารสเปรี้ยวมาจากน้ำมะขามเปียก ที่สำคัญพริกแกงปัจจุบันก็หาซื้อได้ง่ายมีหลายยี่ห้อให้เลือกสรร วิธีทำแกงส้มบอกเลยว่าทำไม่ยาก อุปกรณ์ทำแกงส้ม เตรียมวัตถุดิบกันเลย เราพร้อมแจกสูตรเด็ด รับรองได้เลยว่าอร่อยเหาะเหมือนอยู่ภัตตาคารเลยทีเดียว 

วัตถุดิบ

  • วัตถุดิบน้ำพริกแกงส้ม
  • พริกแดงจินดาแห้ง 15-20 เม็ด 
  • เกือบปน 1 ช้อนชา 
  • หอมแดง 7 หัวเล็ก 
  • กะปิ 1 ช้อนชา 
  • กระเทียมกรีบ 5 กลีบ 
  • กระชาย 2-3 ชิ้น
  • วัตถุดิบแกงส้ม
  • น้ำมะขามเปียก ½ ถ้วย 
  • เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว 3-4 ลูก 
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 1 ลิตร 
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง 
  • ชะอมเด็ดก้านแล้ว 1 ขีด
  • กุ้งแกะเปลือก 6-10 ตัว
  • ผักอื่นๆ ตามชอบ
  • น้ำมันสำหรับทอดไข่ชะอม  

อุปกรณ์

  • ครกหิน 
  • หม้อสแตนเลส 
  • ทัพพีตักแกง 
  • ช้อนโต๊ะ
  • ช้อนชา 
วัตถุดิบทำแกงส้ม

วิธีทำ

  • วิธีการทำพริกแกงส้ม
  • เด็ดขั้วพริก หั่นพริก และปลอกหอมแดง กระเทียม กระชายหั่นเป็นชิ้นหยาบๆเตรียมไว้ 
  • จากนั้นนำวัตถุดิบเครื่องแกงทั้งหมด โขลกให้ละเอียด จากนั้นใส่กะปิ และโขลกให้เข้ากันพักไว้
  • ใช้หม้อต้มน้ำ ใส่น้ำสะอาดที่เตรียมไว้ รอจนเดือด จากนั้นใส่พริกแกงส้มที่เตรียมไว้ในหม้อทันที
  • คนให้ทั่ว จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมะขาม มะนาว เกลือป่น ชิมให้มีรสชาติที่ต้องการเปรี้ยวนำ 
  • ใส่ผักที่เตรียมไว้ลงไปให้พอดี และจากนั้น ให้ใส่กุ้งที่เตรียมไว้
  • วิธีการทำไข่เจียวชะอม
  • ล้างชะอมให้สะอาดก่อนที่จะนำมาเตรียมใส่ในไข่ หันให้เป็นชิ้นๆ ไม่ต้องละเอียดมาก
  • ตอกไข่ไก่ใส่ในชาม ตีให้เข้ากัน กับน้ำปลา และเติมมะนาวเล็กน้อยเพื่อที่จะให้ฟูขึ้น นำชะอมมาใส่และตีให้เข้ากัน
  • ตั้งกระทะไฟพอดี ไม่แรงมากจนเกินไป จากนั้นใส่น้ำมัน
  • เทไข่ลงในกระทะ ทอดให้เป็นแผ่นเหลืองทั้งสองด้าน และหั่นเป็นชิ้นพอดีคำเตรียมไว้
  • พอทุกอย่างเสร็จสิ้นนำไข่เจียวชะอม ที่หั่นแล้ว ใส่ในแกงส้มได้เลยทันที พร้อมเสิร์ฟ  

เคล็ดลับการทำแกงส้มชะอมไข่ให้อร่อย

เป็นที่คุ้นเคยอย่างแน่นอนในความเอร็ดอร่อยของแกงส้ม อาหารไทยทำง่าย ถ้าใครอยากจะเพิ่มเนื้อสัตว์ ความเข้มข้นในพริกแกงส้ม เคล็ดลับการทำแกงส้มสามารถที่จะเติมเนื้อปลาโขลกน้ำพริกแกงเพิ่มได้ แน่นอนว่าไม่คาว แถมยังทำให้แกงส้มหม้อนี้มีแต่ความฟินระดับเต็มร้อย ในรสชาติอาหารไทยที่มีครบรสไม่แพ้ชาติใดในโลก

สูตรทำแกงส้ม

คุณค่าทางโภชนาการในแกงส้ม

ใครคิดเมนูสุขภาพไม่ออก หรือเป็นสายกินคลีน แนะนำเลย แกงส้มชะอมไข่ที่ให้พลังงานต่ำแบบนี้ แถมยังจัดลำดับที่ 12 ของโลก บอกเลยว่าน่าทึ่งสุดๆ มีหลายๆ คนสงสัยแน่นอนว่า เมนูแกงส้ม ให้คุณค่าทางโภชนาการกี่แคลอรี่ต่อการทำแต่ละครั้ง เมื่อรวมการทานกับข้าวสวยเรามีคำตอบ 

  • ไขมัน 6.41 กรัม 
  • โปรตีน 41.64 กรัม 
  • คาร์โบไฮเดรต 176 กรัม
  • ธาตุเหล็ก 5.5 มิลลิกรัม 
  • วิตามินซี 55 มิลลิกรัม
  • เส้นใย 5.5 กรัม 
  •  แคลเซี่ยม 251 มิลลิกรัม  
  • เบต้าเคโรทีน 732 ไมโครกรัม    

บทส่งท้าย

เมนูฮอตฮิตไม่เคยตกอันดับ แกงส้มชะอมไข่ ทุกบ้านที่ต้องมี วัตถุดิบก็หาได้ทั่วไป ทำง่ายตามที่บอก ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือไม่ได้เป็นเชฟ ก็สามารถลิ้มรสชาติของเมนูแกงส้ม ที่รสชาติจัดจ้านน่ารับประทานได้อย่างลงตัวที่สุด คุณค่าทางอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพียงแค่ทานในปริมาณที่เหมาะสม ลองทำแล้วมาแชร์กันได้เลย ว่าเป็นยังไงบ้าง ในรสชาติอาหารที่ติดอันดับโลกขนาดนี้

ขอขอบคุณคลิปจาก กินได้อร่อยด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ kin-keng.com

แกงจืดเต้าหู้หมูสับ เมนูง่ายๆ อร่อยๆ ดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

ไข่พะโล้ สูตรเด็ด ทำง่าย กินง่าย แถมอร่อย ดีต่อใจทั้งคนกินและคนทำ

Categories
วิธีการทำอาหาร

แกงจืดเต้าหู้หมูสับ เมนูง่ายๆ อร่อยๆ ดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

แกงจืดเต้าหู้หมูสับ

แกงจืดเต้าหู้หมูสับ เป็นอาหารของไทยที่เชื่อกันว่าได้รับอิทธิพลมาจากอาหารจีน โดยถูกดัดแปลงมาจากน้ำซุปของชาวจีนในอดีตจนกลายเป็นต้มจืดที่ทานกันอยู่ทุกวันนี้ วัตถุดิบหลักของเมนูนี้จะประกอบด้วยเต้าหู้ หมูสับ วุ้นเส้น และผักต่างๆ ซึ่งจะมีน้ำซุปรสกลมกล่อม สามารถทานกับข้าวหรือจะทานเปล่าๆ ก็ได้เช่นกัน ถือเป็นเมนูยอดนิยมของคนรักสุขภาพเลยก็ว่าได้ เพราะวัตถุดิบที่ใช้ล้วนมีคุณประโยชน์และมีไขมันต่ำ โดยเฉพาะพวกผักต่างๆ สามารถใส่ได้ตามชอบเลย ซึ่งแกงจืดแต่ละสูตรนั้นจะมีส่วนผสมแตกต่างกันไป

คุณค่าทางโภชนาการของแกงจืดเต้าหู้หมูสับ

คุณค่าทางโภชนาการของ แกงจืดเต้าหู้หมูสับ มีคุณประโยชน์มากมาย แม้ว่าจะเป็น เมนูง่ายๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า แกงจืดเต้าหู้หมูสับ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะเป็น อาหารไทย ที่มีหมูสับที่ให้โปรตีน เต้าหู้อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน แคลเซียมและธาตุเหล็ก มีประโยชน์และ ดีต่อสุขภาพ หลายด้าน เช่น ส่งเสริมระบบประสาท ช่วยลดความเครียด เป็นต้น นอกจากนี้ผักชนิดต่างๆ ยังอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารหลายชนิด ทานแล้วช่วยให้ ร่างกายแข็งแรง จะเห็นได้ว่า ประโยชน์แกงจืดเต้าหู้หมูสับ นั้นมีอยู่มากมาย ถือเป็น อาหาร ง่ายๆ ทำได้ไม่ยาก เรามาดู สูตรแกงจืดเต้าหู้หมูสับกันเลย

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับ

วัตถุดิบและส่วนผสม

ส่วนผสมหมูสับหมัก

1. หมูสับ 300 กรัม

2. กระเทียม 20 กรัม

3. รากผักชี 10 กรัม

4. พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนโต๊ะ

5. เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ

6. น้ำเปล่า

ส่วนผสมแกงจืด

1. เต้าหู้ไข่ 3 หลอด

2. หมูสับหมัก 300 กรัม

3. วุ้นเส้น 80 กรัม

4. แครอท 250 กรัม

5. ผักกาดขาว 150 กรัม

6. กระเทียม 20 กรัม

7. รากผักชี 15 กรัม

8. พริกไทย 1/2 ช้อนชา

9. ขึ้นฉ่าย 1 หยิบมือ

10. ต้นหอม 1 หยิบมือ

11. ผักชี 1 หยิบมือ

12. น้ำปลา 2+1/2 ช้อนโต๊ะ

13. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

14. น้ำเปล่า 1,300 กรัม 15. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับ

วิธีทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับ

1. เริ่มต้นด้วยการหมักหมู นำกระเทียม รากผักชี และพริกไทยเม็ด มาโขลกให้เข้ากัน จากนั้นนำหมูสับใส่ในชามผสม ตามด้วยสามเกลอที่โขลกเมื่อสักครู่ และเกลือ

2. คลุกเคล้าให้เข้ากันและค่อยๆ เติมน้ำเปล่าลงไปทีละนิด เพื่อช่วยให้หมูสับนุ่มขึ้น หมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที นำแครอท ผักกาดขาว ต้นหอม ขึ้นฉ่าย และผักชี มาหั่นเตรียมไว้ หั่นเต้าหู้เป็นชิ้นๆ ให้ได้ขนาดพอดี

3. เริ่มทำต้มจืดเต้าหู้หมูสับ เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ โดยการต้มน้ำให้เดือด ใส่กระเทียมและรากผักชีบุบลงไป จากนั้นปั้นหมูเป็นก้อนกลมๆ และใส่ลงไปต้มในหม้อ

4. ปรุงรสแกงจืดด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว และพริกไทยป่น ต้มต่อให้หมูสุกดีจนลอยตัวขึ้นมาแล้วใส่แครอทลงไป ตามด้วยผักกาดขาว วุ้นเส้น และเต้าหู้ไข่ เกลี่ยนิดหน่อยโดยไม่ต้องคนมาก เพราะจะทำให้เต้าหู้ไข่เละได้

5. ใส่ขึ้นฉ่ายเพื่อเพิ่มความหอม ต้มต่อไปเรื่อยๆ จนน้ำซุปเดือด จากนั้นใส่ต้นหอมและผักชีลงไป คนเล็กน้อยและปิดแก๊สได้เลย

6. เพียงเท่านี้ก็จะได้ต้มจืด อร่อย และมีประโยชน์ทานแล้ว ถือเป็นเมนูเด็กหอง่ายๆ ที่สามารถนำไปปรับสูตรได้ตามความต้องการ

เคล็ดลับการทำแกงจืดต้าหู้หมูสับ

เทคนิคการเลือกวัตถุดิบในการทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับช่วยให้อร่อยอย่างมีคุณภาพ นอกจากการปรุงรสแล้ว การเลือก วัตถุดิบแกงจืดเต้าหู้สับ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน สำหรับเทคนิคการเลือกวัตถุดิบ แกงจืดเต้าหู้หมูสับ ง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำ อาหารราคาถูก ให้อร่อยและ ประหยัดต้นทุนได้ในเวลาเดียวกัน คือ หมูสับควรเลือกเนื้อหมูที่มีสีชมพูเป็นธรรมชาติ ไม่เขียวหรือคล้ำและเต้าหู้ไข่ควรเลือกแบบที่มีกลิ่นรสดีตามธรรมชาติ ปราศจากกลิ่นรสไม่พึงประสงค์ ส่วน ผักกาด และผักชนิดอื่นๆ ควรเลือกแบบปลอดสารพิษและมีความสะอาดเมื่อนำมาทำเมนูอาหารง่ายๆ ก็จะอร่อยได้ไม่ยากเลย

แกงจืดเต้าหู้หมูสับ

วิธีการปรุง แกงจืดเต้าหู้หมูสับ ให้รสชาติอร่อยกลมกล่อม

เคล็ดลับแกงจืดเต้าหู้หมูสับแสนอร่อย รสชาติกลมกล่อมจะอยู่ที่การปรุงน้ำซุป แม้ว่าจะเป็น เมนูอาหารคลีน แต่เราสามารถปรุงให้อร่อยได้ง่าย โดยการเลือกใส่วัตถุดิบและเครื่องปรุงเพื่อสุขภาพไม่เน้นรสหวานและเค็มมาก หากต้องการให้ แกงจืดเต้าหู้หมูสับ มีรสชาติกลมกล่อมควรลดปริมาณน้ำปลา ซีอิ๊วขาว และพริกไทยในน้ำซุป เพราะหมูสับที่ใส่ลงไปถูกด้วยหมักเกลือและพริกไทยแล้ว ดังนั้นก่อนจะปรุงเพิ่มควรชิมรสทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่านี่คือเมนูอาหารทานแล้วไม่อ้วน มีรสชาติอร่อยและกลมกล่อมกำลังดี

สุดยอดเมนูอาหารคลีน แกงจืดเต้าหู้หมูสับอร่อยและมีประโยชน์ทำเองได้ง่าย หากใครที่กำลังมองหาเมนู อาหารงบประหยัด สามารถทำทานเองได้ง่ายๆที่บ้าน เมนูนี้ตอบโจทย์อย่างมาก นอกจากอิ่มอร่อย ทานแล้วยังจะมี สุขภาพดีอีกด้วย ต้องบอกว่าแกงจืดเต้าหู้หมูสับเป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบราคาถูก แต่มีคุณประโยชน์มากมาย ซึ่งเป็นได้ทั้ง เมนูอาหารเด็ก และเมนูอาหารผู้ใหญ่ โดยจะมีน้ำซุปร้อนๆ พร้อมเครื่องต่างๆ อาทิ หมูสับ เต้าหู้ไข่ วุ้นเส้น และผักต่าง ๆ นับเป็น เมนูอาหารไทย ที่ทานแล้ว ไม่อ้วน และสามารถทานได้ทุกมื้อเลยทีเดียว สำหรับใครที่อยากหุ่นดี สามารถทำเมนูนี้ทานเองที่บ้านได้เลย

ขอขอบคุณคลิปจาก TidReview

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ kin-keng.com

ไข่พะโล้ สูตรเด็ด ทำง่าย กินง่าย แถมอร่อย ดีต่อใจทั้งคนกินและคนทำ

สอนทำ ต้มยำปลาแรด เมนูอาหารไทย รสชาติแซ่บถูกใจทุกคน

สูตร ปลาทอดสามรส เมนูยอดฮิตในไทย รสชาติอร่อยถูกปากทุกคน

Categories
วิธีการทำอาหาร

ไข่พะโล้ สูตรเด็ด ทำง่าย กินง่าย แถมอร่อย ดีต่อใจทั้งคนกินและคนทำ

ไข่พะโล้

ไข่พะโล้” เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน และเชื่อว่ามีหลายคนเคยได้ลิ้มลองรสชาติของไข่พะโล้กันแล้วคงจะติดใจในรสชาติอันหวานกลมกล่อมพร้อมทั้งมีกลิ่นหอมของสมุนไพรอย่างโป๊ยกั๊ก อบเชย หรือผักชนิดอื่นๆ ที่ถูกนำมาปรุงในเมนูไข่พะโล้นี้ แถมวิธีการทำก็แสนจะง่ายดายเป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถทำได้ทุกครัวเรือน สำหรับวัตถุดิบในการทำก็หาง่ายเช่นเดียวกัน

ไข่พะโล้

ไข่พะโล้ทำยังไง?

แม้ว่าเมนู ไข่พะโล้ จะเป็นอาหารคาวที่ทำได้ง่ายแต่ก็ยังมีมือใหม่หัดทำ ที่ยังไม่ทราบว่าไข่พะโล้ทำยังไง หากท่านใดเห็นบทความนี้ขอบอกได้เลยว่าจะต้องทำตามได้อย่างง่ายและรสชาติอร่อยแน่นอน โดยบทความนี้เราจะมาอธิบายถึงรายละเอียดวิธีการทำไข่พะโล้และการเตรียมวัตถุดิบต่างๆ สำหรับการทำเมนูไข่พะโล้ ซึ่งมือใหม่ถ้าได้ทำตามแล้วไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน

คุณค่าทางโภชนาการของไข่พะโล้

คุณค่าทางโภชนาการของไข่พะโล้?

อาหารไทยหลายเมนูล้วนมีคุณค่าและโภชนาการต่อการบริโภคเป็นอย่างมาก ด้วยการคิดค้นเมนูอาหารต่างๆของคนไทยเรียกได้ว่ามีความรอบคอบเป็นอย่างยิ่งที่คำนึงถึงสุขภาพและการทำอาหารเพื่อสุขภาพนั่นเอง และสำหรับเมนูของไข่พะโล้ ก็มีผลดีต่อสุขภาพด้วยเช่นกันโดยคุณค่าทางโภชนาการของไข่พะโล้มีดังนี้

  •  ไข่หนึ่งฟองมีโปรตีนประมาณ 14.2 กรัม
  •  หากทำไข่พะโล้ที่มีไข่จำนวนหนึ่งฟองจะทำให้ได้รับพลังงานทั้งหมด 210 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว
  • ด้วยส่วนประกอบอย่างอื่นที่อาจมีไขมันเข้ามาร่วมด้วยจะส่งผลให เมนูไข่พะโล้ มีไขมันโดยเฉลี่ย 16.4 กรัม
  • ถ้าในเมนูพะโล้มีโป๊ยกั๊กที่เป็นวัตถุดิบร่วมด้วยนั้นจะทำให้ส่งผลต่อการย่อยอาหารช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและประโยชน์อื่นๆ ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยได้จากโป๊ยกั๊ก

และสารอาหารอื่นๆ ที่ได้จากเครื่องปรุง เช่น โซเดียมจากเกลือ, กากใยอาหารจาก

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ไข่พะโล้

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำไข่พะโล้?

จากที่กล่าวมาข้างต้นเราได้ทราบคุณค่าทางโภชนาการของเมนูไข่พะโล้กันไปแล้ว ต่อไปเรามาดูวิธีทำไข่พะโล้กันเลยดีกว่าว่าจะมีขั้นตอนวิธีการอย่างไรบ้าง ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่าไข่พะโล้ใช้วัตถุดิบอะไรบ้างมาดูกันเลย

  1. เตรียมไข่ต้ม 1- 3 ฟอง (หากทานหลายคนสามารถเพิ่มจำนวนไข่ได้เลย)
  2. ผงพะโล้สำเร็จรูป 1 ซอง
  3. น้ำตาลมะพร้าว (สำหรับสูตรอาหารโบราณ)
  4. น้ำมันพืช
  5. เนื้อสัตว์ตามที่ต้องการ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่
  6. รากผักชี
  7. กระเทียม
  8. พริกไทย
  9. โป๊ยกั๊ก
  10. อบเชย
  11. น้ำ 1.2 ลิตร
อุปกรณ์ที่ในการทำ ไข่พะโล้

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำไข่พะโล้?

สำหรับอุปกรณ์การทำไข่พะโล้ ต้องเตรียมสิ่งที่ต้องใช้ดังนี้

  1. หม้อ
  2. ช้อนโต๊ะ
  3. ทัพพี
  4. จาน ชาม
  5. ครกเพื่อใช้ในการโขลกพริก กระเทียม รากผักชี
เคล็ดลับการต้มไข่ให้สวยน่ากิน

เคล็ดลับการต้มไข่ให้สวยน่ากิน?

การเตรียมวัตถุดิบสำหรับเมนูไข่พะโล้นั้นถ้าให้พิเศษมากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมไข่ที่เป็นเคล็ดลับขั้นสุดยอดของวิธีการทำไข่พะโล้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการต้มไข่ให้สวยน่ากิน ต้องต้มในน้ำที่เดือดและใส่เกลือดด้วยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นนำออกมาแช่ในน้ำอุณหภูมิปกติและนำมาไข่ที่ต้มไว้มาปอกเปลือกเตรียมไปทำเมนูไข่พะโล้ต่อไป หากต้องทำเมนูไข่พะโล้และทานกันหลายคนแนะนำให้เตรียมไข่ไก่มาต้มเตรียมไว้ประมาณ 3 – 6 ฟองก็น่าจะเพียงพอ

วิธีการทำไข่พะโล้ให้อร่อย พร้อมสูตรเด็ด อร่อย กลมกล่อม น่ารับประทาน!!

หลังจากที่ทราบวัตถุดิบในการทำไข่พะโล้กันไปเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเรามาดูวิธีการทำไข่พะโล้มีดังนี้

  1. นำหม้อมาต้มน้ำพอให้เดือดจากนั้นนำผงพะโล้สำเร็จรูปมาเทลงไปในปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
  2. พอน้ำเดือดอีกหน่อยให้ใส่รากผักชี พริกไทยและกระเทียมลงไปตามด้วยอบเชยและโป๊ยกั๊กเพิ่มกลิ่นสมุนไพรให้หอม
  3. เคล็ดลับการปรุงไข่พะโล้คือการปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่เตรียมไว้เคี่ยวสักพักนำเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงไปในหม้อ
  4. ใส่ไข่ต้มที่เตรียมไว้ลงไปเคี่ยวคลุกเคล้าให้กันและทิ้งไว้อีก 1 ชั่วโมงโดยประมาณ
  5. พอสุกดีแล้ว นำหม้อมาพักไว้เตรียมตักเสิร์ฟ เป็นอันเสร็จสิ้น
วิธีการทำไข่พะโล้

บทส่งท้าย

เป็นที่ทราบกันดีว่าไข่พะโล้ เป็นอาหารคาวที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานและหลายครัวเรือนก็เคยได้ทำรับประทานกันอยู่แล้วโดยสูตรอาหารในบทความนี้มีเนื้อหาที่เป็นแนวทางสำหรับมือใหม่ที่มีความสนใจอยากทำไข่พะโล้ได้ลองทำตามพร้อมทั้งแนะนำเทคนิคการทำไข่พะโล้ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดลับการต้มไข่ให้สวยน่ากิน พร้อมทั้งมีการกล่าวถึงให้คุณค่าทางโภชนาการของไข่พะโล้อีกด้วย จะเห็นได้ว่าไข่พะโล้มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างมากด้วยสารอาหารมากมายรวมถึงวัตถุดิบที่มีประโยชน์มากมายด้วยเช่นกัน ยิ่งเป็นพืชผักสมุนไพรที่ดีต่อร่างกายจึงไม่แปลกใจว่าทำไมไข่พะโล้จึงเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมและมีการแจกสูตรการทำไข่พะโล้ จากรุ่นสู่รุ่นมาคู่กับคนไทยอย่างยาวนานรวมถึงสามารถเผยแพร่วัฒนธรรมทางด้านนอาหารนี้ให้กับต่างชาติได้เห็นว่าอาหารไทยก็มีดีไม่แพ้ชาติไหน

ขอขอบคุณคลิปจาก กับข้าวกับปลาโอ

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ kin-keng.com

สอนทำ ต้มยำปลาแรด เมนูอาหารไทย รสชาติแซ่บถูกใจทุกคน

สูตร ปลาทอดสามรส เมนูยอดฮิตในไทย รสชาติอร่อยถูกปากทุกคน

Categories
วิธีการทำอาหาร

สอนทำ ต้มยำปลาแรด เมนูอาหารไทย รสชาติแซ่บถูกใจทุกคน

ต้มยำปลาแรด

ใครที่ดูละครพรหมลิขิตแล้วเห็นเมนู ต้มยำปลาแรด เชื่อว่าคงทำให้อยากจะกินเมนูนี้กันอย่างแน่นอน ทีมดูหน้าจอท้องร้องตามไปเป็นแถว ดังนั้นในบทความนี้เราเลยจะมาเอาใจคนหิวด้วยการสอนสูตรการทำเมนูต้มยำรสชาติสุดแซ่บ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย ไม่อยากจะทนหิวก็เตรียมตัวไปเข้าครัวกันได้เลย สำหรับสูตรและวิธีการทำนี้เราคัดมาให้อย่างดี เน้นว่าเป็นสูตรที่ทำความเข้าใจได้ง่าย ใครที่อยากลิ้มลองความอร่อยกับเมนูที่ทำตามได้ไม่ยากก็ลองมาทำพร้อมกันได้เลย

วิธีทำต้มยำปลาแรด

สูตรและวิธีการทำต้มยำปลาแรด เอาใจออเจ้าที่ชอบของอร่อย

ก่อนที่จะไปเริ่มต้นลงมือทำต้มยำปลาแรด เราจะพาทุกคนไปรู้จักปลาแรดให้มากขึ้นก่อน ซึ่งปลาแรดเป็นปลาที่โด่งดังมากของจังหวัดอุทัยธานี แม้ว่าจะไม่ใช่ปลาของประเทศไทยแต่ก็เข้ามาอยู่ในไทยค่อนข้างนาน ปลานี้ใครได้ลิ้มลองรสชาติก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหวานอร่อย และมีการจัดเทศกาลสำหรับกินปลาแรดโดยเฉพาะด้วย

สำหรับใครที่อยากจะลองทำเมนูปลาด้วยตัวเอง ลองมาศึกษาสูตรเมนูอาหารไทยที่เรารวมมาให้ก่อนได้ ทำตามสูตรเหล่านี้ รับรองว่าจะได้อาหารที่รสชาติอร่อย ยิ่งคนที่ดูละครพรหมลิขิตออเจ้าทั้งหลายจะไม่ผิดหวังกับรสชาติอาหารแน่นอน แถมการทำอาหารเมนูนี้ก็ไม่ได้ทำยาก เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การปรุงรส และต้องมั่นใจว่าน้ำเดือดเต็มที่แล้ว ไม่อย่างนั้นอาจทำให้ปลามีกลิ่นคาวได้ โดยสูตรและวิธีการทำมีดังนี้

ส่วนผสม

  • ปลาแรดหั่นชิ้น 200 กรัม
  • น้ำเปล่า 700 มิลลิลิตร
  • ใบมะกรูด 4 ใบ
  • ข่าหั่นแว่น 5 แว่น
  • ตะไคร้บุบหั่นเฉลียง 3 ต้น
  • น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  • เห็ดฟางผ่าครึ่ง 5 ดอก
  • พริกขี้หนูสวนทุบ 15 เม็ด
  • พริกแห้งทอด 5 เม็ด
  • ผักชีฝรั่งหั่นท่อน 2 ต้น

วิธีการทำ

  1. เริ่มต้นด้วยการตั้งหม้อน้ำและใส่น้ำลงไปต้มจนกว่าจะเดือด โดยให้ใช้ไฟปานกลางในการต้ม หลังจากนั้นให้ใส่ข่า ตะไคร้ หอมแดง และใบมะกรูดลงไป รอจนกว่าน้ำจะเดือดอีกรอบ จึงค่อยใส่เนื้อปลาที่แล่เอาไว้ลงไป รอจนกว่าเนื้อปลาจะสุกและเป็นสีขาว
  2. ทำการปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา ลองชิมรสชาติดูก่อนว่าได้ตามที่ชอบหรือยัง? หากได้ตามที่ชอบแล้วให้ใส่เห็ดฟางลงไป ต้มจนกว่าน้ำจะเดือด และเมื่อน้ำเดือดแล้วให้ปิดไฟ

เตรียมชามเปล่าเอาไว้ ปรุงรสด้วยมะนาว และใส่พริกขี้หนูทุบลงไปในชาม จากนั้นก็ให้ตักต้มยำปลาแรกใส่ชามเอาไว้ โรยหน้าด้วยพริกแห้งทอดกับผักชีฝรั่ง เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว

ประโยชน์ของต้มยำปลาแรด

ประโยชน์ของเมนูต้มยำปลาแรดที่มีมากกว่าความอร่อย

อยากรู้หรือไม่ว่าเมนูต้มยำปลาแรดมีประโยชน์อะไรบ้าง สำหรับใครที่สนใจอยากลองชิมเมนูปลาแรด แต่ยังลังเลว่าจะกินดีไหม เพราะไม่เคยลองทำต้มยำปลาแรดหรือกินปลาแรดมาก่อน ลองมาดูประโยชน์ที่มีนอกเหนือจากเนื้อปลาหวานอร่อยก่อนก็ได้ ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้

  • ปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่มีโอเมก้า 3 อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดหัวใจ อีกทั้งยังช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ด้วย
  • มีไขมันน้อย จึงเหมาะสำหรับคนที่กังวลว่าจะเกิดโรคอ้วน หรืออยากจะกินเนื้อสัตว์ที่เหมาะสำหรับช่วงที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยการกินปลานอกจากจะไม่มีไขมันสะสมในร่างกายแล้วยังเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย

มีธาตุไอโอดีนอยู่ ซึ่งเป็นธาตุที่จำเป็นสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ช่วยพัฒนาการทำงานของระบบประสาทและสมอง

ต้มยำปลาแรด

สรุป

เป็นอย่างไรบ้างหลังจากไปดูสูตรและวิธีการทำ ต้มยำปลาแรด คงเห็นแล้วว่าจริงๆ แล้วเมนูอาหารของไทยก็ทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่ต้องรู้ขั้นตอนการทำกับวัตถุดิบที่ใช้เท่านั้น อยากตามรอยละครพรหมลิขิตและบุพเพสันนิวาสก็เข้ามาเรียนรู้สูตรการทำอาหารผ่านบทความของเราได้ นอกจากนี้บนเว็บไซต์ของเรายังมีสูตร

ขอขอบคุณคลิปจาก Care Noname

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติมได้ที่ kin-keng.com

สูตร ปลาทอดสามรส เมนูยอดฮิตในไทย รสชาติอร่อยถูกปากทุกคน

Categories
วิธีการทำอาหาร

สูตร ปลาทอดสามรส เมนูยอดฮิตในไทย รสชาติอร่อยถูกปากทุกคน

สูตร ปลาทอดสามรส

ปลาทอดสามรส” เมนูอาหารไทยที่ใครได้ลองชิมก็ต้องชอบ เพราะเมนูนี้รวมมาครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะคนที่ชอบหวาน ชอบเค็ม หรือชอบรสชาติจัดจ้านก็ต้องถูกใจทั้งนั้น แม้ว่าจะเป็นเมนูที่บางคนอาจจะเริ่มลืม หรือไม่ได้กินบ่อยหนัก แต่ถ้าดูละครพรหมลิขิตอาจทำให้คุณอยากกลับมาลิ้มลองความอร่อยของเมนูนี้อย่างแน่นอน แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่เมนูไหนดัง เมนูนั้นก็จะขายหมดเร็วมาก ทำให้คุณพลาดของอร่อยตลอด ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ เราเลยรวมสูตรและวิธีการทำ ปลาทอดสามรส ด้วยตัวเองที่บ้านมาฝาก ใครอยากลงมือทำก็ตามไปดูกันได้เลย


รวมสูตรและวิธีการทำ-ปลาทอดสามรส-เมนูอาหารทำง่าย-แสนอร่อย

รวมสูตรและวิธีการทำ “ปลาทอดสามรส” เมนูอาหารทำง่าย แสนอร่อย

หลังจากดูละครพรหมลิขิต ออเจ้าทั้งหลายคงอยากเข้าครัวทำเมนูปลาทอดสามรสกันอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่มั่นใจว่าเมนูนี้ต้องทำอย่างไร เพราะเวลาดูละครพรหมลิขิตและบุพเพสันนิวาส ทุกเมนูก็ดูเหมือนทำง่ายทั้งหมดจริงๆ แล้วเมนูนี้ก็ไม่ได้ยากเลย เตรียมจดสูตรปลาทอดสามรสที่เรานำมาฝากไปลงมือทำตามกันได้ รับรองว่าคุณจะได้เมนูแสนอร่อยแน่นอน โดยสูตรและวิธีการทำจะมีดังนี้

ส่วนผสม

  • ปลานิล 1 ตัว
  • กระเทียม 40 กรัม
  • ผักชี 2 ต้น
  • พริกแดงจินดา 50 กรัม
  • น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊ป 6 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. อย่างแรกให้เริ่มต้นจากการเอาพริกแดงจินดามาหั่นเป็นเส้นยาวๆ เอาไว้ หลังจากนั้นให้นำไปแช่น้ำ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการตกแต่งหน้าจานอาหาร ส่วนพริกที่เหลือให้เอาไปปั่นเอาไว้
  2. ต่อมาให้หั่นผักชี ส่วนรากของผักชีให้เอาไปปั่นรวมกับพริกแดงจินดา จากนั้นก็ใส่กระเทียมลงไปปั่นผสมด้วย
  3. ล้างทำความสะอาดปลานิลให้เรียบร้อย ใช้กระดาษทิชชู่ซับน้ำของปลานิลให้หมาดๆ และบั้งตัวปลาให้เรียบร้อย
  4. เอาเกลือทาที่ปลาเล็กน้อย จากนั้นตั้งกระทะด้วยน้ำมันไฟร้อนจัด เอาปลาลงไปทอดประมาณ 5 นาที จากนั้นให้พลิกอีกด้านทอด รอจนกว่าปลาจะมีสีเหลืองทองหรือสุก เมื่อตักขึ้นมาพักเอาไว้ก็ให้ทำส่วนของน้ำราดพริกสามรสต่อ ปรุงรสเพิ่มเติมน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำเปล่า และน้ำตาลปั๊ป ผัดจนกว่าส่วนผสมจะละลาย

สุดท้ายให้เอาปานจัดวางบนจานและราดด้วยน้ำราดพริกสามรส ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าและผักชีที่หั่นเอาไว้ เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

เหตุผลที่ทุกคนควรกินเมนูปลาทอดสามรส

เหตุผลที่ทุกคนควรกินเมนูปลาทอดสามรส

อยากรู้ว่ากินปลามีประโยชน์จริงไหมต้องมาหาคำตอบในหัวข้อนี้ เพราะเรารวมประโยชน์ของการกินปลาทอดสามรสซึ่งเป็นเมนูอาหารที่ทำจากปลามาฝาก เพื่อให้คุณได้ทำความเข้าใจสารอาหารต่างๆ ที่อยู่ในเมนูปลาอันนี้ เชื่อว่าอ่านจบจะทำให้คุณได้เข้าใจเหตุผลอย่างแน่นอนว่าทำไมถึงจะเลือกกินเมนูปลา โดยจะมีเหตุผลอะไรบ้างลองไปดูได้เลย

  • ปลาอุดมไปด้วยโปรตีนจำนวนมาก ซึ่งโปรตีนเหล่านี้จะถูกร่างกายดูดซึมเอาไปใช้ประโยชน์ในหลายๆ อย่าง อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย ส่งเสริมให้เกิดพัฒนาการที่ดี
  • เป็นเมนูที่มีไขมันน้อย ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไขมันต่างๆ ได้ อีกทั้งยังย่อยง่าย ไม่เกิดการสะสมของไขมันในร่างกายอีกด้วย
  • อุดมไปด้วย DHA ที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่งผลต่อการพัฒนาของเด็ก และช่วยพัฒนาระบบประสาทและสมองให้มีประสิทธิภาพ ในวัยเด็กการกินปลาจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
  • กินปลาจะได้วิตามิน D ค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยดูดซึมสารอาหาร ทำให้คุณลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกต่างๆ ในอนาคตได้
ปลาทอดสามรส

บทส่งท้าย

จากที่ตามไปดูสูตรการทำปลาทอดสามรสมาแล้ว ทุกคนคงรู้แล้วว่าปลาสามรสใส่อะไรบ้าง ใครที่อยากจะลงมือเข้าครัวก็ไม่ต้องห่วงเลย ทำตามสูตรเหล่านี้รับรองว่าการทำอาหารจะเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น เพราะทุกเมนูเราคัดเลือกวิธีที่ง่ายที่สุด แต่เป็นสูตรที่อร่อยๆ มาฝากทุกคน ไม่รู้ว่าจะเข้าครัวทำเมนูไหนดีก็ลองมาเริ่มทำกันได้ หรืออยากจะตามรอยเมนูอื่นของละครพรหมลิขิตเราก็มีรวมเอาไว้ให้เหมือนกัน ลองมาดูจากเว็บไซต์ของเรากันได้เลย

ขอขอบคุณคลิปจาก กินได้อร่อยด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ kin-keng.com

สูตรและวิธีทำยำปลาทู อาหารยอดฮิต เมนูปลาสุดแซ่บใครกินก็ติดใจ

Categories
แนะนำร้านอาหารน่าไป

3 ร้านอาหารริมทะเลพัทยาขึ้นชื่อเรื่องวิวหลักล้านแถมรสชาติอร่อยสุดๆ

3ร้านอาหารริมทะเลพัทยา

วันหยุดยาวกับพัทยาเป็นของคู่กัน และหากได้นั่ง ร้านอาหารริมทะเลพัทยา คงจะเป็นวันพักผ่อนที่เพิ่มพลังบวกให้กับชีวิตไม่น้อย ส่วนจะมีร้านไหนน่านั่งกันบ้างนั่นคือคำถามที่หลายคนอยากรู้ เพราะอยากลิสต์ไว้เป็นตัวเลือกสำหรับเดินทางมาเยือนพัทยา วันนี้เราจะขอไกด์ไลน์สำหรับ 3 ร้านน่านั่งและน่าใช้บริการ เมื่อมาถึงเมืองพัทยา เพราะคุณภาพ รสชาติและราคาไม่ได้แรงจนเกินไป ส่วนจะมีร้านไหนกันบ้างนั้นต้องตามไปดูกันเลย

พัทยา

เช็กชื่อ ร้านอาหารริมทะเลพัทยา ที่ต้องเช็คอินให้ได้

สำหรับ 3 ร้านอาหารริมทะเลพัทยาที่เรามองว่าเป็นร้านที่ทุกคนใช้เวลาไปกับการพักผ่อนได้สบาย เพราะเป็นร้านที่มีข้อมูลการรีวิวร้านอาหารมากมาย ซึ่งการันตีได้เลยว่าเป็นร้านที่อร่อย เดินทางสะดวก และได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดร้านอาหารในพัทยาที่ท้าให้ลอง ส่วนตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะแจกลิสต์ร้านอร่อย ริมทะเล กับวิวหลักล้านในราคาหลักร้อยกันดังนี้

the oxygen pattaya

the oxygen pattaya

เริ่มต้นกันด้วยร้านอาหารแนะนำ ร้านแรกกันเลย ร้านนี้มาในแบบร้านอาหารและคาเฟ่ในสไตล์บาหลี แต่งร้านด้วยการคลุมโทนน้ำตาล ร้านใหญ่มีที่นั่งหลายโซน บรรยากาศดีสุดๆ เพราะติดกับริมหาดจริงๆ ทำให้ช่วงเย็นมองเห็นดวงอาทิตย์สาดแสงสุดท้ายของวันไปในตัว สามารถนำน้องหมา-น้องแมวมาด้วยได้เลย ทั้งนี้จุดเด่นของทางร้านคือ มีเมนูอาหารให้เลือกครบครันทั้งอาหารคาว อาหารหวาน เครื่องดื่มหลากหลาย และกลางคืนมีดนตรีสดเพราะๆ เคล้าบรรยากาศดีๆ ไปในตัว ในขณะการบริการดี คุณภาพสูงจริงๆ ส่วนมุมถ่ายรูปมีหลายมุมสวยๆ ให้เลือกตามสไตล์ของแต่ละคน ด้านเมนูอาหารที่ต้องสั่งคือ ซี่โครงหมูรมควันซอสบาร์บีคิว, ปลากะพงราดพริก, หอยนางรมสด, โคลด์คัทและชีส, Pizza 4 ชีส, ต้มยำทะเล และหมึกน้ำดำ ฯลฯ

  • พิกัดร้าน : 400/1098 หมู่ที่ 12 ตำบล หนองปรือ อำเภอบางละมุง ชลบุรี
  • เวลาทำการ : 10.00 – 22.00 น.
  • โทร : 063-174-9399
  • Facebook: https://web.facebook.com/TheOxygenPattaya/?_rdc=1&_rdr
The Glass House

The Glass House Pattaya

สำหรับใครที่ชอบนั่งรถเล่น และซึมซับบรรยากาศชิลๆ ในการรับลมทะเล แนะนำร้านอาหารติดหาดและอยู่ริมทะเลร้านนี้ทันที เพราะเหมาะแก่การพักผ่อนและมานั่งกินข้าวในวันหยุดกับครอบครัว พร้อมหนีบน้องหมาและน้องแมวหรือสัตว์เลี้ยงต่างๆ มาได้ด้วย แต่ต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด, แก๊งเพื่อนรู้ใจ รวมถึงใครที่กำลังออกเดตต้องไม่พลาดร้านนี้เด็ดขาด บรรยากาศของทางร้านเป็นร้านที่เงียบสงบ ตกแต่งด้วยโทนสีขาวและเฟอร์นิเจอร์เป็นไม้ เข้ากับบรรยากาศริมทะเลอย่างมาก ส่วนกลางคืนจะตกแต่งด้วยไฟสีสวย เคล้าเสียงเพลงเบาๆ ส่วนมุมถ่ายรูปเด่นๆ คือห้องกระจกสีขาว ส่วนเมนูอาหารที่ต้องมาลองมีหลายรายการเช่น ลาบปลาแซลมอน, ต้มโคล้งกุ้ง, ทอดมันกุ้ง, หอยจ้อ, เฉาก๊วยนมสด เป็นต้น ทั้งนี้เรื่องที่จอดรถไม่น่าห่วง เพราะรองรับลูกค้าทุกคนด้วยความสะดวกสบายแน่นอน ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมคือ

  • พิกัดร้าน: เทศบาลเมืองชลบุรี · อำเภอสัตหีบ · อำเภอบางละมุง · เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
  • เวลาทำการ : 10.00 – 22.00 น.
  • โทร : 063-174-9399

Facebook: https://web.facebook.com/TheGlassHousePattaya/?_rdc=1&_rdr

นางนวง Nangnual

นางนวล Nangnual Pattaya

ปิดท้ายกันที่ร้านอาหารทะเลในตำนาน เพราะอยู่คู่พัทยามานานกว่า 50 ปีไปแล้ว ส่วนความอร่อยและคุณภาพของอาหารประกันได้เลยว่าไม่ผิดหวัง ภายในร้านยังการันตีความปลอดภัยจาก SHA อีกด้วย ส่วนเมนูอาหารของที่นี่มีความหลากหลายสุดๆ ดังนั้นไม่ว่าชอบเมนูอาหารสไตล์นี้ไม่น่าจะต้องกังวล เพราะอาหารอร่อยทุกเมนู ซึ่งเมนูแนะนำคือ ปลากะพงทอดราดสมุนไพร, โป๊ะแตกทะเล, กุ้งมังกรอบเนย, ปลากะพงทอด 8 เซียน ฯลฯ ส่วนบรรยากาศได้ฟีลทะเลเต็มๆ เพราะตัวร้านโซนกลางแจ้งอยู่ในทะเลของจริง ทำให้มองเห็นวิวสวยๆ ของทะเลได้เต็มๆ ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมมีดังนี้

ร้านอาหารริมทะเลพัทยา

สรุป ทุกร้านการันตีความอร่อย พร้อมวิวสวยๆ ที่ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง

จาก 3 ร้านอาหารริมทะเลพัทยาที่แนะนำไปน่าจะทำให้ทุกคนได้ตัวเลือกง่ายขึ้น เพราะแต่ละร้านมีจุดเด่นที่น่าสนใจมากมาย ทั้งเรื่องของราคา รสชาติอาหาร และคุณภาพที่ได้เกินคำว่าคุ้มค่าอย่างมากจริงๆ

ขอขอบคุณคลิปจากช่อง Namwan-Jung Channel

3 ร้านอาหารบางแสนอร่อย วิวดีที่สายชิมต้องลอง

Categories
แนะนำร้านอาหารน่าไป

3 ร้านอาหารพัทยารสเด็ด วิวดี ไม่แวะเท่ากับพลาด

ปัญหาของหลายคนที่จัดทริปเที่ยวพัทยาที่ต้องเจอคือ “ร้านอาหารพัทยา” ควรไปลองชิมร้านไหนดี เพื่อตามหารสชาติอาหารอร่อยและถูกใจมากที่สุด ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงร้านอาหารสไตล์หลากหลายสไตล์ แต่โดยรวมคือความอร่อยจนต้องไปลองชิม ส่วนจะมีร้านไหนกันบ้างที่จะหยิบยกขึ้นมาพูดถึง และแต่ละร้านมีความจุดเด่นอะไรกันบ้างที่ท้าให้ทุกคนต้องไปลอง

เช็กชื่อ 3 ร้านอาหารพัทยาต้องลองจะมีร้านไหนกันบ้าง? 

ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะพูดถึง 3 ร้านอาหารพัทยารสชาติดี ในราคาคุ้มค่า บริการของทางร้านเพิ่มความประทับใจ ทำให้กลายเป็นร้านอาหารบรรยากาศดีที่ทุกคนพร้อมจะตัดสินใจกลับมาใช้บริการในครั้งต่อไปไม่ยากอีกด้วย ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูกันเลยว่าร้านอาหารอร่อยที่จะพูดถึงมีร้านไหนกันบ้างThe Sky Gallery Pattaya

เริ่มเรื่องกันที่ร้านอาหารแนะนำพัทยาร้านแรกกันก่อนเลย จุดเด่นนอกจากจะเป็นร้านที่มีรสชาติอาหาร อร่อยแล้ว ยังเป็นร้านที่เพิ่มบรรยากาศดี ๆ เหมาะกับการเช็คอินในวันหยุดได้ดีอีกด้วย การตกแต่งของที่นี่จะมาในสไตล์คาเฟ่และร้านอาหาร ซึ่งเหมาะกับการนัดพบปะ สังสรรค์ หรือออกเดตเป็นที่สุด เพราะร้านจะตั้งอยู่แถวแหลมบาลีฮาย ทางขึ้นเขาพระตำหนัก ซึ่งอยู่ที่สูงทำให้มองเห็นวิวทะเลหลักล้าน พร้อมรับลมทะเลเย็น ๆ สบาย ๆ ได้ตลอดทั้งวัน เพราะพื้นที่ของที่นี่มี 2 โซนหลัก ๆ คือภายในอาคารและกลางแจ้ง ส่วนใครที่มาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงที่บ้านสามารถนำเข้ามาได้เช่นกัน แต่ต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิด มาต่อกันที่เรื่องของเมนูอาหารที่นี่มีครบทุกสไตล์ทั้งฝรั่ง อาหารไทย และซีฟู้ด แต่ที่ต้องไม่พลาดเลยคือ สลัดสไปซี่ทูน่า, Pizza ฯลฯ ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมของทางร้านคือ

  • พิกัดร้าน : 400 หมู่ที่ 12 ถนนราชวรุณ อำเภอบางละมุง ชลบุรี
  • เวลาทำการ : 08.00 – 24.00 น.
  • โทร : 092-821-8588

สุดทางรัก พัทยา 

อเนื่องกันด้วยร้านที่ 2 ซึ่งร้านนี้เน้นหนักไปที่ร้านอาหารไทยและอาหารทะเล บอกเลยว่าร้านนี้อาหารอร่อยและวิวแสนสวยของจริง ไม่มาถือว่าพลาดกันเลยทีเดียว สำหรับร้านนี้มีที่จอดรถฟรี บรรยากาศโดยรวมดูดีหรูหรา กับวิวทะเลฉ่ำ ๆ พร้อมเมนูอาหารที่ยกให้เป็นนัมเบอร์วันของคนรักอาหารไทยและอาหารทะเลสุด ๆ พร้อมฟิลนั่งชิลที่ทะเล ส่วนทำเลคือติดหาด ส่วนราคาอาหารไม่อยู่ในเรตปานกลางไม่ได้แรงจนเกินไป และเมื่อมาถึงอาหารที่ไม่ควรพลาดเลยคืออาหารทะเล โดยมีซิกเนเจอร์คือ หมึกไข่นึ่งมะนาว, กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา, หมึกผัดไข่เค็ม, ต้มยำทะเล และปูผัดผงกะหรี่ ฯลฯ ซึ่งทุกเมนูย้ำว่าไม่สั่งเท่ากับมาไม่ถึงกันเลยนะ ส่วนที่นั่งของทางร้านมีให้เลือก 2 แบบคือ โซน Open Air รับลมทะเลแบบจัดเต็ม และโซนในอาคารนั่งชิล ๆ สวย ๆ ในห้องแอร์ พร้อมอาหารอร่อย ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับทางร้านเพิ่มเติมมีดังนี้

  • พิกัดร้าน : 99 หมู่ที่ 1 ถนน เลียบหาดจอมเทียน ตำบล นาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ ชลบุรี 
  • เวลาเปิด : 10:00 – 22:00 น.
  • ติดต่อทางร้าน : 085-066-0666

ลุงเลียง&ป้ามาลี

ร้านที่ 3 มาในแบบร้านอาหารรสชาติจัดจ้านตามแบบฉบับของคนชลบุรี เรียกได้ว่าเป็นร้านเจ้าถิ่นก็ได้ ซึ่งหากใครเบื่ออาหารรสชาติทั่ว ๆ ไป เพราะต้องการเพิ่มความร้อนแรงของแต่ละเมนูมากขึ้น แนะนำว่าต้องไม่พลาดร้านนี้เป็นอันขาด โดยมีหลายเมนูให้เลือกมากมายทั้งเมนูอาหารทั่วไปและอาหารป่า รสชาติไม่จัดไม่ใช่ร้านนี้แน่นอน ส่วนเมนูต้องลองคือ ไข่เจียว, หมึกน้ำดำ, และซิกเนเจอร์ที่ต้องไม่พลาดคือแกงไก่กะลา ฯลฯ ส่วนเมนูอาหารร้านนี้ราคาเริ่มต้นที่ 60 บาท เท่านั้น และที่จอดรถสะดวกมากเพราะรองรับได้ 10-20 คัน โดยข้อมูลเพิ่มเติมของทางร้านมีดังนี้ 

  • พิกัดร้าน : 5/7 ม.3 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
  • เวลาเปิด : 08:00 – 15:00 น. (หยุดทุกวันเสาร์)
  • ติดต่อทางร้าน : 081-290-8790

สรุป ร้านอร่อยในเมืองพัทยาที่ทุกคนการันตีว่าไม่ควรพลาด

สำหรับร้านอาหารพัทยาทั้ง 3 ร้านที่พูดถึงทั้งหมด แนะนำว่าควรไปลองสักครั้ง หากมีโอกาสไปเที่ยวหรือทำธุระในพัทยา ซึ่งทุกคนรับรองว่าอร่อยและได้เป็นร้านโปรดของใครหลายคนแน่นอน kin-keng.com

บทความเพิ่มเติม 

Categories
จัดอันดับอาหารยอดฮิต ไม่มีหมวดหมู่

สูตรเมี่ยงปลาเผาแสนอร่อย อาหารยอดฮิต เมนูกับข้าวที่กินแล้วไม่อ้วน

อยากมองหาเมนูปลาแสนอร่อยที่ดีต่อสุขภาพ เมนูที่เราจะแนะนำในบทความนี้คือ “เมี่ยงปลาเผา” ซึ่งต้องบอกเลยว่าเมนูนี้น้ำจิ้มเด็ด แซ่บถูกใจ ยิ่งถ้าเลือกเนื้อปลาที่มีความสดจะถูกใจแน่นอน ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย มีขั้นตอนการทำง่าย แถมยังทำได้สะดวกอีกด้วย มีอุปกรณ์ไม่กี่อย่างก็สามารถทำเมนูนี้กันได้ อยากหาเมนูที่กินแล้วไม่อ้วน ลองมาดูสูตรและวิธีทำเมี่ยงปลาเผาจดสูตรเอาไปทำตามรับรองว่าอร่อยเหมือนซื้อมาจากร้านแน่นอน

food menu2

สูตรและวิธีทำเมี่ยงปลาเผา เมนูปลายอดฮิตที่ทำไม่ยากแบบที่คิด

เมนูเมี่ยงปลาเผาเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่ากิน ทั้งเนื้อปลาที่มีความหอม ยิ่งกินคู่พร้อมขนมจีนหรือเส้นหมี่ก็ยิ่งอร่อย อยากได้เมนูอาหารง่ายๆ ที่ไม่น่าเบื่อแบบที่คิด รสชาติครบเครื่องถูกใจ ทั้งมีความเผ็ด เปรี้ยว เค็มถูกใจ รับรองว่าได้ลองชิมเมนูนี้จะชอบแน่นอน โดยจะมีสูตรอาหารหรือวิธีทำอาหารอย่างไรบ้าง ลองตามไปดูเมนูนี้กันได้ หากอยากลงมือเข้าครัวด้วยตัวเองก็ลองไปดูวัตถุดิบและวิธีทำที่เรานำมาฝากได้เลย 

วัตถุดิบ 

  • ปลาทับทิม 1 ตัว 
  • เกลือ 1 ถ้วย 
  • ใบเตย 4 ใบ 
  • ตะไคร้ 4 ต้น 
  • ขนมจีน 
  • ต้นหอม 
  • ผักชีฝรั่ง 
  • ผักกาดขาว 
  • ใบสะระแหน่ 
  • ถั่วฝักยาว 
  • ผักชีลาว 
  • ผักสลัด 
  • พริกแดง ครึ่งถ้วย 
  • น้ำปลากวน 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 1 ส่วน 3 ของถ้วย 
  • น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ 
  • ถั่วลิสง 1 ส่วน 3 ของถ้วย

วิธีการทำ

  1. เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดปลาทับทิมให้เรียบร้อยก่อน โดยที่ไม่ต้องขอดเกล็ดปลา 
  2. นำใบเตยพันตะไคร้แล้วยัดใส่ในท้องปลาเพื่อดับกลิ่นคาวปลา ก่อนที่จะไปทำขั้นตอนถัดไป
  3. เตรียมเตาถ่านสำหรับย่างปลา แล้วนำปลาไปย่างให้สุก โดยจะใช้เวลาย่างปลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือถ้าใครที่ไม่มีเตาถ่านก็สามารถใช้อุปกรณ์อื่นได้ เช่น เตาอบ หรือหม้ออบลมร้อน 
  4. ขั้นตอนถัดไปให้ทำน้ำจิ้มซีฟู้ดสำหรับกินคู่กับปลาเผา โดยให้ทำน้ำจิ้มด้วยเครื่องปั่น ใส่พริกกระเทียม ถั่วลิสงคั่ว น้ำมะนาว และน้ำปลา ปรุงรสให้ได้รสชาติที่ถูกใจ 
  5. เพียงเท่านี้ก็จะทำอาหารง่ายๆ อย่างเมนูเมี่ยงปลาเผาพร้อมเสิร์ฟเรียบร้อยแล้ว 

food menu1

รวมประโยชน์ของเมี่ยงปลาเผา เมนูปลาแสนอร่อย

เมี่ยงปลาเผาเป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีประโยชน์หลากหลายอย่าง แถมวิธีการทำอาหารเมนูนี้ก็ค่อนข้างง่าย แต่ก่อนอื่นเราจะมาแนะนำเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูนี้กันก่อนที่จะไปดูว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง สิ่งที่จะทำให้เมี่ยงปลาอร่อยก็คือ การกำจัดกลิ่นคาวปลาให้หมด และการปรุงน้ำจิ้มแสนอร่อย รับรองว่าจะถูกปาก ถูกใจทุกคนแน่นอน ไม่แปลกใจที่จะเป็นเมนูยอดนิยมของใครหลายคน ถ้ามีน้ำจิ้มแซ่บ ๆ ใครก็ชอบทั้งนั้น ถัดไปเราจะมาแนะนำประโยชน์ของเมนูนี้กันว่ามีอะไรบ้างหากอยากรู้แล้วก็ตามไปดูกันได้เลย

  • เนื้อปลาช่วยบำรุงสมอง 

ประโยชน์อย่างแรกของการกินเมี่ยงปลาเผาก็คือ การช่วยบำรุงสมอง เพราะในปลามีกรดไขมัน DHA และโอเมก้า 3 ปริมาณที่มาก ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาสมองของมนุษย์ กินได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ เพื่อที่จะทำให้เกิดการจดจำที่ดี หากใครอยากอายุเพิ่มขึ้นแล้วมีความจำที่ดี แนะนำเลยว่าเมนูที่ทำจากปลาเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างน่าสนใจเลย 

  • ช่วยลดความเครียดและบรรเทาอาการซึมเศร้า 

เมนูอาหารที่ทำจากปลามีประโยชน์อีกอย่างคือ การช่วยลดความเครียดและบรรเทาอาการซึมเศร้าได้ จากพบการวิจัยพบว่าโอเมก้า 3 มีความจำเป็นต่อสมอง แถมยังเหมาะกับคนที่มีอาการซึมเศร้าหรือขาดสมาธิ กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ช่วยทำให้ผู้ที่กินเข้าไปมีอารมณ์เย็นมากขึ้น ลดความเครียดและทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ 

  • ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ

จากการวิจัยพบว่าการกินเนื้อปลาอาทิตย์ละ 1 ถึง 2 ครั้งมีส่วนช่วยเรื่องการลดความดันโลหิตได้ ซึ่งความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ ดังนั้นใครที่อยากลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจการกินเมนูปลาจะช่วยได้เยอะเลย ทั้งช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ แถมยังมีค่าไขมันและพลังงานต่ำเหมาะมากสำหรับคนที่อยากจะรักษาหุ่นด้วย

  • ช่วยบรรเทาอาการปวดบวมของโรคข้ออักเสบ

จากการวิจัยพบว่าอาการของโรคไขข้ออักเสบสามารถบรรเทาได้จากการกินเนื้อปลา เพราะจากการวิจัยมีการทดลองให้ผู้ที่เป็นโรคไขข้ออักเสบกินปลา หลังจากนั้นก็สามารถลดการใช้ยาบางตัวลงได้ โดยที่ยังคงรักษาอาการของโรคข้ออักเสบได้อย่างคงที่ 

food menu

บทสรุป

อยากอิ่มอร่อยกับเมนูเมี่ยงปลาเผาก็จดสูตรกับข้าวเมนูนี้ไปทำตามกันได้ แต่สิ่งสำคัญคือให้เตรียมอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อนที่จะทำ ถ้าบ้านไหนไม่มีเตาเผาก็สามารถใช้อุปกรณ์อื่นก่อนก็ได้ เพื่อให้ได้เมนูเพื่อสุขภาพแสนอร่อย ขั้นตอนการทำที่ไม่ได้ยากแบบที่คิด รสชาติของเมนูนี้จะถูกปากทุกคนไม่ผิดหวังแน่นอน นอกจากนี้เว็บไซต์ของเรายังมีสูตรอาหารคาวอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณจดไปทำตามกันได้ อยากลองเข้าครัวด้วยเมนูอื่น ๆ ก็ลองเข้ามาอ่านบทความบนเว็บไซต์ของเรากันได้ kin-keng.com


บทความเพิ่มเติม

Categories
จัดอันดับอาหารยอดฮิต

เอาใจสายแซ่บ บอกต่อ อาหารอีสาน เมนูอาหารพื้นบ้านรสจัดจ้าน เอกลักษณ์ที่ทำทำให้หลายคนติดใจ

อาหารอีสาน เป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์ในรสชาติจนได้รับความนิยมทั้งในหมู่คนไทยทั้งประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติด้วยชื่นชอบกัน ดึงดูดใจด้วยสีสัน และความจัดจ้านทุก ๆ จาน แถมเมนูส่วนใหญ่ยังเต็มไปด้วยสมุนไพรและวัตถุดิบพื้นบ้านที่ดีต่อร่างกาย ทำให้หลายคนติดใจเลือกทานเป็นประจำ

แบ่งปัน 5 สูตร อาหารอีสาน ลิ้มลองความอร่อยแบบดั้งเดิม อร่อยครบเครื่อง ทำง่าย สะดวกสบายสุด ๆ

เอาใจสายแซ่บที่ชื่นชอบอาหารรสชาติเข้มข้น จัดจ้านด้วย อาหารอีสาน ง่าย ๆ ที่สามารถทำตามได้ที่บ้าน ไม่ง้อร้านข้างนอกอีกต่อไป จัดมาให้ครบทั้งวัตถุดิบใน เมนูอาหารอีสาน พร้อมกับ วิธีทำอาหาร ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ได้ความอร่อยนัวพร้อมเสิร์ฟ

ซุปหน่อไม้

bamboo shoot soup

เริ่มต้นด้วย อาหารอีสาน ที่หลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ทานคู่กับข้างเหนียวร้อน ๆ รับรองเลยว่าจะกลายมาเป็น เมนูอาหาร สุดโปรดที่ต้องซ้ำ

ส่วนผสมสำหรับน้ำยำ

หน่อไม้ปี๊บ 400 กรัม, ข้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ, หอมแดงซอย 1 ถ้วย, ใบสะระแหน่ ¾ ถ้วย, น้ำปลาร้าต้มสุก 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำใบย่านาง 1 ถ้วยตวง, ต้นหอมซอย ¾ ถ้วย, ผักชีฝรั่ง ซอย 2 ถ้วย, พริกป่น 3 ช้อนชา, น้ำปลา 1.5 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาว 1.5 ช้อนโต๊ะ, ต้นหอม สำหรับโรยหน้า, ข้าวคั่ว สำหรับโรยหน้า, ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า 

วิธีการทำ

การทำอาหาร ที่มีสลวัตถุดิบหลักเป็นหน่อไม้ปี๊บนั้น จำเป็นต้องนำออกมาล้างให้สะอาดก่อน แล้วต่อด้วยการต้มแล้วเทน้ำทิ้งอีก 2-3 ครั้ง เพื่อดับกลิ่นละรสเปรี้ยวจัด จากนั้นนำมาขูดเป็นเส้นยาวด้วยส้อม เริ่มตั้งแต่โคนไปถึงยอด ใส่ลงในหม้อแล้วเทน้ำใบย่านางลงไปต้มด้วยไฟแรง ปรุงรสด้วยพริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำปลาร้า และข้าวคั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตามด้วยใบสะระแหน่ ผักชีฝรั่ง และหอมแดง คลุกเคล้าอีกครั้ง ก่อนเสิร์ฟ อาหารประจำภาคอีสาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย ใบสะระแหน่ และข้าวคั่วเป็นอันเสร็จ

ลาบหมู

Pork Larb

อาหารอีสาน ที่สามารถทานเป็นอาหารจานเดียว หรือจะเป็น กับข้าว ทานกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก็อร่อยไม่แพ้กัน สูตรนี้เราจัดรสชาติจัดจ้านมาให้ได้ทำทานกันง่าย ๆ ทานได้บ่อย ไม่มีเบื่อ

ส่วนผสม

หมูบด 300 กรัม, หนังหมู 200 กรัม, ตับหมู 100 กรัม, หอมแดง 50 กรัม, ต้นหอม, ผักชี, ข้าวคั่ว 1½ ช้อนโต๊ะ, พริกป่น 1½ ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 1½ ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาว 1½ ช้อนโต๊ะ, น้ำ 50 มิลลิลิตร   

วิธีการทำ

สูตรอาหารอีสาน ที่ทำตามได้ง่ายที่สุด เพราะมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงแค่นำหมูสับลงไปต้มในหม้อด้วยไฟกลาง ตามด้วยหนังหมูและตับหมู แล้วรวนให้สุกดี จากนั้นปิดเตาแล้วใส่หอมแดงลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น และคั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากันดี ปิดท้ายด้วยการโรยต้นหอมและผักชีก็พร้อมเสิร์ฟ

ลาบปลาดุก

Spicy catfish salad

อาหารอีสาน อีกหนึ่งเมนูอาหารง่ายๆ ที่ถูกใจสายแซ่บ มาพร้อมกับขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ได้รสชาติแบบดั้งเดิม เสิร์ฟคู่ข้าวเหนียวและผักสดลงตัวสุด ๆ

ส่วนผสม

ปลาดุกย่างแห้ง ๆ 1ตัว, ต้นหอม 2 ต้น, ผักชีฝรั่ง 1 ต้น, หอมแดง 3 หัว, น้ำมะนาว 2 ช้อน, น้ำปลา 1 ช้อน, ข้าวคั่ว 1 ช้อน, พริกคั่วป่น 1 ช้อน, น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 

วิธีการทำ

กับข้าวอีสาน ถูกใจมือใหม่ที่กำลังมองหาวิธี ทำอาหารง่ายๆ เคล็ดลับอยู่ที่การย่างปลาดุกให้เนื้อแห้ง จากนั้นนำมาแกะเนื้ออกแล้วค่อยสับให้แหลก ใส่ลงในชามผสม ตามด้วยต้นหอม ผักชี และหอมแดงซอย ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา ข้าวคั่ว พริกคั่วป่น และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟคู่กับผักสด รับรองติดใจ

แกงหน่อไม้

หากพูดถึง อาหารอีสาน จะขาดใบย่านางไปไม่ได้เด็ดขาด เมนูอาหารอีสานพื้นบ้าน ที่มาพร้อมกับความอร่อยกลมกล่อม สรรพคุณล้นถ้วย ดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย

ส่วนผสม

ใบย่านาง, พริกสด หรือพริกแห้ง ปริมาณตามชอบ, หอมแดง, ข้าวเหนียวดิบแช่น้ำ ¼ ถ้วย, หน่อไม้สด หรือหน่อไม้ลวก หั่นเป็นชิ้น ต้มสุก, ผัก ตามชอบ, เห็ดหั่นเป็นชิ้น ตามชอบ, ชะอมเด็ด, ใบแมงลัก เด็ดเป็นใบ, น้ำปลาร้า (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 

วิธีการทำ

เมนูอีสาน เมนูนี้มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก เริ่มจากนำใบย่านางมาขยำกับน้ำ แล้วกรองเอาเฉพาะน้ำมาพักไว้ระหว่างนั้นโขลกพริกสด หอมแดง ข้าวเหนียวแช่น้ำเข้าด้วยกันให้ละเอียด พักไว้เช่นกัน ขั้นตอนต่อไปตั้งหม้อต้มน้ำใบย่านาง แล้วใส่เครื่องที่โขลกเตรียมไว้พร้อมกับตะไคร้ทุบลงไป คนให้เข้ากัน พอน้ำเดือดจึงใส่หน่อไม้ต้มสุกตามลงไป รอให้เดือดอีกครั้ง จากนั้นใส่ผักสดและเห็ด ก่อนปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ปิดท้ายด้วยการใส่ชะอมและใบแมงลักลงไปหลังจากเดือดอีกครั้ง

ตับหวาน

sweet liver

วันไหนเปรี้ยวปากอยากแซ่บ เตรียมจดสูตร อาหารอีสาน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น อาหารยอดฮิต ในหมวดอาหารคาวอย่างตับหวานฉ่ำ ๆ ที่เรานำมาฝากไปทำตามได้เลย

ส่วนผสม

ตับหมูหั่นชิ้นบาง 100 กรัม, น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาว 1½ ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา, พริกป่น ½ ช้อนโต๊ะ, ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ, ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ, ใบสะระแหน่ 6 ใบ, ต้นหอมซอย 1 ต้น
 

วิธีการทำ

เริ่มขั้นตอนแรกด้วยการตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่ตับหมูหั่นชิ้นลงไปลวกจนเกือบสุก ตักขึ้นมาพักไว้ จากนั้นเตรียมชามผสมแล้วใส่น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล และพริกป่นลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตามด้วยตับที่ลวกเตรียมไว้ แล้วค่อยใส่ข้าวคั่ว ต้นหอม ผักชีฝรั่งซอย และใบสะระเเหน่ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ อาหารอีสานง่ายๆ ที่หากทำตาม สูตรอาหาร นี้ตับจะไม่ชมหวานสมใจแน่นอน

บทสรุป

เป็นอย่างไรบ้างกัน 5 เมนู อาหารอีสาน ลองหยิบไปเป็นไอเดียทำอาหารทานเองที่บ้าน รับรองเลยว่าจะได้รสชาติ อาหารพื้นเมือง แบบถึงเครื่องถึงรสแน่นอน ในบทความต่อไป เราจะมีเมนูอาหารสไตล์ไหนมาฝากกันอีก รอติดตามพร้อมกันได้เลย จัดมาให้ครบทั้งอาหารคาว ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ห้ามพลาด! kin-keng.com

บทความเพิ่มเติม